กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2%
ส่วนยอดค้าปลีกที่นับรวมยอดขายรถยนต์ ลดลง 0.2% แตะระดับ 3.781 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้เนื่องจากยอดขายรถยนต์ทรุดตัวลง 2.8% ซึ่งนับเป็นสถิติการดิ่งลงหนักที่สุดในรอบ 10 เดือน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดขายน้ำมันเบนซินที่สถานีบริการน้ำมันปรับตัวลดลง 0.4% ในเดือนเม.ย. ขณะที่ยอดขายสินค้าตกแต่งบ้านขยับขึ้น 0.1% ส่วนยอดขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ถีบตัวสูงขึ้น 1.4% นอกจากนี้ ยอดขายเสื้อผ้าไต่ระดับขึ้น 0.7% และยอดขายสินค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.5%
นักวิเคราะห์เชื่อว่าความเสี่ยงที่สหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอยนั้นเริ่มปรากฎให้เห็นมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่น่าวิตกคือการที่ผู้บริโภคอาจลดอัตราการใช้จ่ายลงอย่างมาก ท่ามกลางภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ขณะที่วิกฤตสินเชื่อทวีความรุนแรงมากขึ้น
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ยอดค้าปลีกซึ่งไม่นับรวมยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนเม.ย.เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเมื่อคืนนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--