นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผ้บริโภค (CPI) ในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนม.ย. ซึ่งเป็นผลมาจากราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐยังไม่ชะลอตัวลง
นักเศษฐศาสตร 77 คนที่บลูมเบิร์กนิวส์สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนเม.ย.จะขยายตัวสอดคล้องกับระดับในเดือนมี.ค. โดยคาดว่า ดัชนี CPI พื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานในเดือนเม.ย.จะขยายตัว 0.2% นับเป็นสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2
ราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้นได้สร้างแรงกดดันให้กับภาคธุรกิจต่างๆ อาทิ สายการบิน และกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ในการปรับขึ้นราคา ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คณะกรรมการกำกับดูแลนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงก็ตาม
ผลการสำรวจจากบลูมเบิร์กชี้ว่า เมื่อเปรียบเทียบกับระดับในปีก่อนหน้านี้ ค่าครองชีพอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% นับเป็นสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 6
กระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดการเปิดเผยดัชนี CPI ในคืนนี้ โดยคาดว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 0.1-0.7% เว็บไซต์บลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--