อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นต่อไปอีก เนื่องจากบริษัทพลังงานลงทุนด้านการผลิตและสาธารณูปโภคด้านการผลิตน้อยเกินไป จนไม่สามารถรับมือกับความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นได้
"ในช่วงที่รายได้เพิ่มขึ้น บริษัทพลังงานกลับไม่ได้นำเงินเข้าไปลงทุนให้เพียงพอ จึงทำให้เกิดภาวะไร้สมดุลของอุปสงค์และอุปทาน ขณะที่นักลงทุนกำลังให้ความสนใจเข้าซื้อขายในตลาดล่วงหน้ามากขึ้น ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ดันราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น " กรีนสแปนกล่าวที่ประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งจัดโดยธนาคารดอยช์แบงค์ เอจีในสิงคโปร์
เมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 126.98 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐจะไม่สามารถผลิตน้ำมันได้เพียงพอต่อความต้องการ และจากความกังวลที่ว่าอิหร่านอาจลดปริมาณการผลิตน้ำมัน
กรีนสแปนย้ำว่า วิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อจะผ่านพ้นไปเร็วขึ้นหากนักลงทุนยอมรับความจริงเรื่องการขาดทุนในตลาดซับไพรม์ และคาดการณ์สถานการณ์ตลาดอย่างสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน
กรีนสแปน วัย 82 ปี เป็นประธานเฟดตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2530 และครบวาระการดำเนินตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค.2549 นับจากนั้นกรีนสแปนได้ให้เกียรติเดินทางไปกล่าวปาฐกถาและให้ความรู้ด้านเศรษฐกิจตามสถาบันต่างๆ อีกทั้งเขียนหนังสือและเป็นประธานให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าของสถาบันการเงินหลายแห่ง รวมถึง ดอยช์แบงค์ โดยหนังสือเรื่อง "The Age of Turbulence" เวอร์ชั่นล่าสุดที่พูดถึงวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ มีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนส.ค.ปีนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--