ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.46 แข็งค่าเกาะกลุ่มภูมิภาค รับ GDP Q2/67 ดีกว่าคาด จับตาประชุมกนง.-นโยบายรัฐบาลใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 19, 2024 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 34.46 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 34.59 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.39-34.57 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทที่ระดับ 34.39 เป็นการแข็งค่าสุดใน รอบ 7 เดือนครึ่ง นับตั้งแต่ 3 ม.ค.67 ทั้งนี้ เงินบาทแข็งค่าตามสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากบอนด์ยีลด์สหรัฐลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินอื่น ในขณะที่ปัจจัยในประเทศ สภาพัฒน์เผย GDP ไตรมาส 2/67 โต 2.3% ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด

อย่างไรก็ดี ตลาดรอดูปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้ ทั้งการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่เชื่อว่าจะยังคง ดอกเบี้ยไว้ระดับเดิมที่ 2.50% รวมทั้งแนวนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้การบริหารของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่ง อาจจะมีผลต่อมุมมองเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปของ กนง.ได้เช่นกัน

นักบริหารเงิน คาดพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.35-34.60 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 146.26 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 147.42 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1034 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1030 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ 1,323.38 จุด เพิ่มขึ้น 20.38 จุด (+1.56%) มูลค่าซื้อขาย 62,385.85 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 10,464.67 ล้านบาท
  • สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 2/67 ขยายตัว 2.3% เร่งขึ้นจาก 1.6% ในไตรมาส 1/67 ทั้งปี คาด GDP ขยายตัว
2.3-2.8% ส่งออก ขยายตัว 2% เงินเฟ้อ 0.4-0.9% แนะช่วงที่เหลือของปี รัฐบาลต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อให้การใช้จ่าย และ
การลงทุนภาครัฐ เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่การรักษาบรรยากาศทางการเมืองในประเทศ
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนให้กลับมา
  • เลขาธิการสภาพัฒน์ ระบุว่า หากรัฐบาลชุดใหม่จะไม่ดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อ ก็อาจต้องมีมาตรการอื่นเข้ามาทด
แทน เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งต้องดูว่านายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะมีความ
เห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร โดยต้องหารือกันในระดับนโยบายก่อน รวมทั้งฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ด้วย
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ด้วยมติไม่เป็นเอกฉันท์ในการประชุม
วันที่ 21 ส.ค. ขณะที่ในภาพรวมนักลงทุนจะยังรอความชัดเจนเรื่องทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่
  • สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียแข็งค่าขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ
รวมทั้งขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ขณะที่เศรษฐกิจของ
ประเทศในเอเชียเริ่มฟื้นตัว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตราเอเชีย
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ระบุว่า ขณะนี้เป็นเวลาเหมาะสม ที่เฟดจะพิจารณาปรับลด
อัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากระดับปัจจุบันที่ 5.25-5.50% ซึ่งถือเป็นการดำเนินการอย่างรอบคอบ และตลาดแรงงานของสหรัฐ
ขณะนี้ไม่ได้อยู่ในภาวะอ่อนแอ แม้ตัวเลขจ้างงานจะชะลอลง
  • นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2568 ลงเหลือ
20% จากเดิมที่ระดับ 25% โดยอ้างอิงถึงรายงานยอดค้าปลีก และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์
ได้แสดงความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ค.จาก Conference

Board, คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 30-31 ก.ค.67,

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้น เดือนส.ค., ยอดขายบ้านมือ

สองเดือนก.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ