นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับเงื่อนไขโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการแจกเงินให้กลุ่มเปราะบางก่อนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่า มีหลายแนวคิด แต่ยังไม่ขอตอบในประเด็นรายละเอียด มีโอกาสเปลี่ยนเป็นทุกอย่าง เราได้คิดแล้ว พูดคุยบ้างแล้ว แต่เมื่อยังไม่มีข้อตกลงออกมาจากพรรคร่วมรัฐบาล จึงยังพูดมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ความชัดเจนจะออกมาเร็ว ๆ นี้ เพราะคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะแถลงนโยบายในช่วงต้นเดือน ก.ย.
"ในกลไก เรายังเชื่อมั่นว่า โครงการดิจิทัลยังเดินหน้าได้ โดยรูปแบบอาจมีการปรับเปลี่ยนในบางส่วน"นายจุลพันธ์ กล่าว
พร้อมยอมรับว่ามีการพูดคุยกันในพรรคเพื่อไทยถึงความเป็นไปได้ในการปรับเปลี่ยนแนวทางการการแจกเงินผ่านโครงการเติมเงิน 10,000 บาทดิจิทัลวอลเล็ต แต่ไม่ขอลงในรายละเอียด เพราะต้องให้เกียรติในการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งวันนี้ก็ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมฯ ถึงแนวทางการทำนโยบายแห่งรัฐร่วมกัน โดยจะต้องนำนโยบายของแต่ละพรรคมาพูดคุยว่าสามารถเดินหน้านโยบายได้เพียงใดภายใต้กรอบงบประมาณที่มีอยู่และในสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
นายจุลพันธ์ ย้ำว่า สิ่งที่ ครม.ได้มีมติเกี่ยวกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตในขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง กระบวนการการลงทะเบียน การเตรียมความพร้อมของโครงการยังเดินหน้าอยู่ ซึ่งหน่วยงานราชการยังเดินหน้าทำงานอยู่ แต่เมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่แล้ว หากจะมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขใด ๆ ของโครงการ เชื่อว่าจะต้องเป็นประโยชน์ ถูกใจประชาชนมากขึ้น และประเด็นใดที่เป็นข้อกังวลทางกฏหมายก็พยายามปรับแก้เพื่อให้โครงการเดินหน้า และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
ส่วนไทม์ไลน์ของโครงการที่ระบุว่าประชาชนจะได้รับเงินในไตรมาส 4 นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโดย ครม.ชุดใหม่
สำหรับงบประมาณเพิ่มเติม 67 ที่ใช้ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตที่ผ่านการอนุมัติจากสภาฯ มาแล้ว จะใช้งบประมาณก่อนเลยหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางวุฒิสภาผ่านความเห็นชอบมาแล้ว และส่งมายัง ครม. ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ก็ปฏิบัติตามกฏหมายด้วยการดำเนินการตามขั้นตอน แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเร่งรัดจัดตั้ง ครม.โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ได้ส่งรายชื่อไปตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว แต่การจัดตั้งรัฐบาลและแถลงนโยบายควรจะให้เสร็จโดยเร็วเพื่อให้ทันกับกรอบงบประมาณปี 67 ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. เชื่อว่าจะดำเนินการได้ทัน