นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวในเวทีเสวนา "ก้าวต่อไปของประเทศไทย" ในงาน Dailynews Talk 2024 ว่า เศรษฐกิจไทยมี 3 เสาหลักในการสร้างรายได้เข้าประเทศ ซึ่งประกอบด้วย การลงทุน การส่งออก และการท่องเที่ยว ซึ่งการลงทุนเป็น 1 ในเสาหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ขณะนี้เราอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญของประเทศ หลังจากที่ประเทศไทยว่างเว้นการลงทุนครั้งใหญ่ไปตั้งแต่ 30 ปีก่อน ดังนั้นโอกาสทองของประเทศไทยในขณะนี้ คือ ต้องทำให้เป็นทศวรรษในการสร้างฐานการลงทุนใหม่ให้เติบโตต่อเนื่องไปอีกหลายสิบปีข้างหน้า
ทั้งนี้ มองว่ามีปัจจัยท้าทาย 3 เรื่องที่มีผลต่อการลงทุน คือ 1. เรื่องภูมิรัฐศาสตร์ ที่ถือว่าประเทศไทยมีความโชคดีที่มีความเป็นกลาง ไม่ได้อยู่ขั้วประเทศใดประเทศหนึ่ง 2.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะต้องสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน และเตรียมพร้อมสู่ Net Zero 3.กติกาภาษีใหม่ ที่หลายประเทศจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปีหน้า ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งที่มีผลต่อการลงทุนในทศวรรษหน้าเป็นอย่างมาก
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นจุดแข็งของประเทศไทยซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ ได้แก่ ความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งท่าเรือขนาดใหญ่ นิคมอุตสาหกรรมในหลายพื้นที่ การเป็น supply chain ของอุตสาหกรรรมยานยนต์ ปิโตรเคมี ซึ่งตลาดของไทยมีความเชื่อมโยงที่ดีกับตลาดในภูมิภาค
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีความเป็นกลาง ภายใต้เศรษฐกิจที่มีการแบ่งขั้ว นอกจากนี้ สภาพภูมิประเทศของไทยเอง ยังมีความน่าอยู่ ต่างชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม และการอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับต่างชาติที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลอินเตอร์
อย่างไรก็ดี มองว่าจุดแข็งที่มีดังกล่าว อาจไม่เพียงพอต่อการแย่งชิงการลงทุนที่มีประสิทธิภาพเข้ามาในประเทศ ซึ่งเห็นว่าควรต้องทำเพิ่มในอีก 5 เรื่อง คือ 1.พลังงานสะอาด 2.การทำข้อตกลงเสรีการค้า (FTA) 3.สร้างบุคลากรที่มีทักษะเพื่อป้อนอุตสาหกรรมใหม่ 4.การอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ 5.การจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการเข้ามาลงทุนหรือประกอบกิจการ
ทั้งนี้ หากทำได้จะเป็นการสร้างฐานอุตสาหกรรมใหม่ในไทย 7 สาขาที่สำคัญ ได้แก่ 1. Semiconductor 2. แบตเตอรี่ โดยทั้ง 2 ส่วนนี้เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ และเป็นหัวใจสำคัญของทุกอุตสาหกรรม 3. Bio-based and Renewable Energy 4. xEV 5. Advanced Electronics 6. Digital และ 7. International Business Center
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวด้วยว่า ในช่วง 1-2 ปีนี้ การลงทุนในไทยมีการเติบโตมาก โดยพบว่าการลงทุนสูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งล่าสุดครึ่งปีแรกนี้ มีคำขอลงทุนกว่า 1,400 โครงการ เพิ่มขึ้น 60% คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 4.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในสาขาอิเล็กทรอนิกส์มากถึง 1.4 แสนล้านบาท คิดเป็น 30% รองลงมา คือ ยานยนต์และชิ้นส่วน การแปรรูปอาหาร ปิโตรเคมี และดิจิทัล