ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 2567 จะขยายตัวที่ 1.5% แต่ก็มีโอกาสมากขึ้น ที่การส่งออกไทยจะขยายตัวได้มากกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะหากการส่งออกทองคำยังขยายตัวได้ในอัตราที่สูง
สำหรับการส่งออกล่าสุด ในเดือน ก.ค.67 ที่แม้จะขยายตัวได้สูงถึง 15.2% แต่ภาพการส่งออกไทย ยังมีปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าที่อ่อนแอลง โดยโดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยเดือนก.ค. และ ส.ค.67 เกือบทั้งหมดอยู่ระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งอาจเป็นปัจจัยลบต่อการส่งออกสินค้าไทยในระยะข้างหน้า
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกดดันจากความสามารถในการแข่งขันของไทยที่ลดลง อีกทั้งปัจจัยเสี่ยงเชิงลบที่เพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอนของสภาพอากาศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตสินค้าเกษตรให้ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ในเดือนก.ค.67การส่งออกขยายตัวได้ถึง 15.2% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 7% โดยเป็นผลจกฐานที่ต่ำในเดือนก.ค.66 เช่น การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป ที่ลดลงตามราคาของตลาดโลกในขณะนั้น ประกอบกับการส่งออกไทยในเดือนก.ค.67 ได้รับปัจจัยหนุนสำคัญจากการส่งออกทองคำที่ขยายตัวถึง 434.1% จากปัจจัยด้านปริมาณ และราคา ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังมีอยู่ และธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยในระยะอันใกล้ ซึ่งหากหักทองคำออก การส่งออกของไทยเดือนก.ค. 67 ขยายตัวที่ 11.0%
นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลายรายการ ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง ได้แก่ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ และ Hard Disk Drive ขณะที่การส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบ กลับมาหดตัวในเดือนนี้ที่ -12.8% โดยหดตัวในตลาดส่วนใหญ่ เช่น ออสเตรเลีย และอาเซียน อาทิ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น