นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผย ในช่วงปีงบประมาณ 2567 กนอ.ประสบความสำเร็จในการขาย/เช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมได้ถึง 6,174 ไร่ ถือเป็นสถิติใหม่ (New High) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่มีอยู่สูงมาก (High demand)
โดยความสำเร็จนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถของภาคส่วนต่างๆ กนอ. และพันธมิตรในการดึงดูดนักลงทุน รวมถึงเป็นแรงผลักดันให้ กนอ. พัฒนาประสิทธิภาพการบริการ และการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน และบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ
"เป้าหมายในการดึงดูดการลงทุนของ กนอ.สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศ กนอ.จะพยายามคัดเลือกประเภทกิจการที่จะเข้ามาลงทุนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่ออุตสาหกรรม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมั่นว่า กนอ.จะร่วมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนได้" นายวีริศ กล่าว
ทั้งนี้ กนอ.เน้นย้ำถึงความสำคัญในการปรับองค์กรสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการนำเทคโนโลยีและข้อมูล มาใช้ในการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วย Digital Transformation มาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 โดยพยายามพัฒนาไปสู่ระบบ Big Data และ AI เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญ รวมถึงระบบ Digital Twin เพื่อบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขยายผลจากนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาครไปยังนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ.ทั้ง 13 แห่ง
นอกจาก กนอ.ยังกำหนดรูปแบบนิคมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ที่สามารถตอบโจทย์ด้านการใช้ระบบสาธารณูปโภค ด้วยพลังงานสะอาดและคาร์บอนต่ำ หรือ Smart IE รวมถึงพัฒนากลไกต่าง ๆ เพื่อบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกทั้งระบบ ที่สำคัญ กนอ. ยังดำเนินการจัดตั้ง I-EA-T Academy เพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้ตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมให้มากที่สุดด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ กนอ. กำลังดำเนินแคมเปญ NOW Thailand เพื่อกระตุ้นและตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
"เชื่อมั่นว่า ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับนักลงทุนต่างชาติ กนอ. และทุกภาคส่วน จะร่วมกันพัฒนาศักยภาพของประเทศ โดยจะมุ่งเน้นดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศ พร้อมทั้งพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทยต่อไป" ผู้ว่าฯ กนอ. กล่าว