นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า กกร. สนับสนุนแนวทางการยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงินของภาคธนาคาร ที่ได้ยกระดับการจัดการบัญชีม้าให้เข้มข้นขึ้น โดยจัดกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงเป็นบัญชีม้าดำ ม้าเทา และม้าน้ำตาล โดยมีการแชร์ข้อมูลระหว่างกันของภาคธนาคาร พร้อมเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และฐานข้อมูล Central Fraud Registry (CFR) เพื่อจัดการบัญชีม้าเดิม และป้องกันการเปิดบัญชีม้าใหม่
โดยหากบุคคลใดถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง จะถูกระงับบัญชีทั้งหมด และไม่ให้เปิดบัญชีใหม่ นอกจากนี้ยังจะขยายผลไปยังบัญชีนิติบุคคลซึ่งมีข้อมูลว่า บัญชีที่ถูกเปิดโดยนิติบุคคล มีรายชื่อกรรมการเชื่อมโยงกับบัญชีม้าจำนวนมาก
พร้อมกันนี้ สมาคมธนาคารไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ภาคธนาคาร เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ไปจนถึงผู้ให้บริการคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อให้สามารถจัดการบัญชีม้าอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนกรณีที่ ธปท. จะออกแนวทางเรื่องภัยไซเบอร์ให้ธนาคารพาณิชย์รับผิดชอบ 100% นายผยง กล่าวว่า เนื่องจากมีหลักคิดเรื่องการให้บริการทางการเงินอย่างรับผิดชอบ แต่ความรับผิดชอบนั้นเกิดขึ้นทุกภาคส่วน ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ดังนั้น การยกระดับต้องให้ทั้งระบบไปด้วยกัน ไม่ใช่เลือกเฉพาะข้อต่อใดข้อต่อหนึ่ง โดยเฉพาะการบังคับใช้กฏหมาย ที่ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดการเขย่งเชิงโครงสร้างได้ และเกิดการยกเว้นทางการเงินไปด้วย
"การป้องกันภัยไซเบอร์ คือ การพูดถึงเทคโนโลยีระดับโลก ไม่ใช่แค่ไทย แต่ยังมีอาชญากรข้ามชาติ ซึ่งจำเป็นต้องวัดมาตรฐานทุกแกน ทั้งเศรษฐกิจนอกระบบ การบังคับใช้กฏหมายที่เข้มข้น ทุกข้อต่อของห่วงโซ่อุปทานในระบบชำระเงิน ทั้งหมดนี้เป็นหัวข้อสำคัญที่ได้แลกเปลี่ยนกับ ธปท. และได้มีการพูดคุยกับธปท. ตลอด ทั้งการอาศัยกลไกโครงสร้างทางกฏหมายของธปท. และกลไกของราชการ ซึ่งหน่วยงานรัฐมีการพูดคุยประสานกันทุกภาคส่วน" นายผยง กล่าว