นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงผลงานรอบ 1 ปี ในตำแหน่งรมว.พาณิชย์ว่า ได้กำหนดนโยบายในการทำงานในช่วงบริหารงานกระทรวงพาณิชย์ไว้ 7 ด้าน ได้แก่ 1.ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส 2.บริหารให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้บริโภค เกษตรกร และผู้ประกอบการ 3.ทำงานเชิงรุกระหว่างพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ 4.แก้ไขข้อจำกัดของกฎหมาย หรือปรับปรุงกฎหมายที่เก่าล้าสมัย 5.ร่วมขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 6.เร่งผลักดันการส่งออก และ 7.ผลักดันการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งผลการทำงานประสบความสำเร็จในทุกด้าน สามารถดูแลตั้งแต่เกษตรกร ที่เป็นคนฐานรากของประเทศ ดูแลประชาชนให้มีภาระค่าครองชีพลดลง และดูแลผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันและช่วยเพิ่มรายได้
สำหรับการลดรายจ่าย จัดโครงการ "พาณิชย์สั่งลุย...ลดราคา" โดยลดราคาสินค้าจำเป็น ช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน กินเจ ก่อนเปิดภาคเรียน ลดสูงสุด 60-85% รวม 8 กิจกรรม ลดค่าครองชีพได้ 8,060 ล้านบาท และกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 13,400 ล้านบาท จัด "โครงธงฟ้าราคาประหยัด ลดค่าครองชีพประชาชน" จำหน่ายสินค้าจำเป็นราคาต่ำกว่าท้องตลาด 20-40% รวม 1,134 ครั้ง ลดค่าครองชีพ 130 ล้านบาท เป็นต้น
ส่วนการเพิ่มรายได้นั้น สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้นเกือบ 200,000 ล้านบาท จากราคาพืชผลทางการเกษตรที่สูงขึ้น โดยพืชหลัก ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ช่วยเหลือเกษตรกรเกือบ 8 ล้านครัวเรือน ดูแลปริมาณผลผลิตเกือบ 90 ล้านตัน สร้างสถิติราคาซื้อขายข้าวเปลือกเจ้าได้สูงสุดในรอบ 20 ปี ขณะที่พืชรอง ได้แก่ ผลไม้ พืช 3 หัว (กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่) และผัก ช่วยเหลือเกษตรกรเกือบ 1.5 ล้านครัวเรือน ดูแลผลผลิตกว่า 8 ล้านตัน สร้างสถิติราคาซื้อขายสับปะรด กระเทียม หอมแดง สูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ผู้ประกอบการชุมชน และ SMEs โดยผลักดันการค้าผ่านอี-คอมเมิร์ซ ทั้งในและต่างประเทศ เกิดมูลค่าการซื้อขาย 2,347.70 ล้านบาท, เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับตลาดต้องชม 251 แห่ง เพิ่มรายได้ 1,987 ล้านบาท, พัฒนาหมู่บ้านทำมาค้าขาย เพิ่มรายได้ 185 ล้านบาท, ผลักดันเพิ่มมูลค่าสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) สร้างรายได้ 71,000 ล้านบาทต่อปี
พร้อมกันนั้น ยังใช้ร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป็นโชว์รูมแสดงสินค้าไทย เพื่อเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการและผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทย, เชื่อมโยงร้านอาหาร Thai SELECT กับการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มรายได้, จัดกิจกรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจ ผ่านการจัดตลาดพาณิชย์ทั่วประเทศ รวม 318 ครั้ง สร้างรายได้ 373 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายจะจัดให้ได้รวม 935 ครั้ง ในช่วงเดือนส.ค.-พ.ย.67 คาดว่า จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้เป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน ได้เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการ โดยนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก ส่วนการขยายโอกาสทางการค้า ได้จัดกิจกรรมและโครงการต่างๆ เจาะตลาดเป้าหมาย ทั้งจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกาหลีใต้ ซาอุดีอาระเบีย และแอฟริกาใต้ รวมถึงผลักดันการค้าชายแดนและผ่านแดน ลงนาม FTA ไทย-ศรีลังกา และผลักดันการเจรจา FTA กับประเทศใหม่ๆ
นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า ได้ขยายโอกาสทางการค้าผ่านกลยุทธ์ตลาดแนวใหม่ โดยใช้ซีรีย์วาย ซีรีย์ยูริ ยกระดับสินค้าชุมชน อาทิ สมุนไพร สุราชุมชน ขนมขบเคี้ยว และนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่ฮ่องกง เวียดนาม ฝรั่งเศส เกิดการจับคู่ธุรกิจ 756 คู่ มูลค่า 4,102 ล้านบาท อีกทั้งยังใช้เครือข่ายอินฟลูเอนเซอร์จีน ไลฟ์สดขายสินค้าและบริการไทย เพื่อสร้างรายได้ให้คนตัวเล็ก คาดการณ์มูลค่า 1,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ได้ฝากกระทรวงพาณิชย์ให้ขับเคลื่อนการทำงานของทีมพาณิชย์ ที่ตนแต่งตั้งไว้ 9 คณะ ได้แก่ 1.พัฒนาศักยภาพเกษตรกร 2.ยกระดับเอสเอ็มอี 3.ขับเคลื่อนการค้าไทย-จีน-อาเซียน 4.ขับเคลื่อนโลจิสติกส์การค้า 5.ใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และอินฟลูเอนเซอร์ 6.ผลักดันนโยบายอต์พาวเวอร์ 7.พัฒนาการค้าตามระเบียบโลกใหม่ 8.พัฒนากฎหมายกระทรวง และ 9.สร้างการรับรู้และภาพลักษณ์กระทรวง ที่ขณะนี้ การทำงานมีความคืบหน้าทุกคณะ และอยากให้สานงานต่อ
"ผลงานของกระทรวงพาณิชย์ทั้งหมด เกิดจากความร่วมมือของข้าราชการทุกคน วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้ทำงานที่นี่ เสียดายที่ไม่ได้สานงานต่อ แต่เชื่อว่า ทั้งรมว.พาณิชย์ท่านใหม่ และรมช.ทั้ง 2 ท่าน จะสานงานต่อ และจะมีนโยบายใหม่ ๆ ที่ขับเคลื่อนงานของกระทรวงพาณิชย์ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการได้แน่นอน" นายภูมิธรรม กล่าว