คลัง เคาะไทม์ไลน์แจกเงินหมื่นเฟสแรก ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 25-27, 30 ก.ย.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 13, 2024 15:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คลัง เคาะไทม์ไลน์แจกเงินหมื่นเฟสแรก ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 25-27, 30 ก.ย.
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงไทม์ไลน์จากแจกเงิน 10,000 บาทว่า ในเฟสแรก จะโอนเงินเข้าบัญชีของผู้พิการ และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงวันที่ 25-27 และ 30 ก.ย.นี้ รวมทั้งหมด 4 วัน แบ่งลำดับคิวในแต่ละกลุ่มดังนี้
  • วันที่ 25 ก.ย.67 สำหรับผู้พิการ 2.1 ล้านคน และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0
  • วันที่ 26 ก.ย.67 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 1, 2 และ 3
  • วันที่ 27 ก.ย.67 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 4, 5, 6 และ 7
  • วันที่ 30 ก.ย.67 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8 และ 9

"เหตุที่ต้องจัดกลุ่มแบบนี้ เพราะเราจะทยอยจ่ายเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ เพื่อให้ไม่กระทบกับการจ่ายเงินเดือน และสวัสดิการต่าง ๆ จึงมีการจัดเป็นสล็อต (รอบ ๆ) เฉลี่ยรอบละ 4-5 ล้านคน น่าจะเป็นตัวเลขที่เหมาะสม โดยหลังจากรัฐบาลโอนเงินให้เรียบร้อยแล้ว ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าว สามารถถอนเงินออกได้เลย" ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ

ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน ซึ่งหากใครยังไม่ทำการผูกบัตรให้รีบไปดำเนินการ แต่หากทำไม่ทันตามกำหนดจ่ายเงิน ยังยืนยันว่ายังได้รับสิทธิ์เช่นเดิม เพียงแต่จะได้รับเงินล่าช้าออกไป และต้องดำเนินการผูกบัตรกับพร้อมเพย์ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ หากไม่ทัน เมื่อครบกำหนดจะทำการดึงเงินกลับคืน ส่วนกลุ่มผู้พิการนั้น จะดำเนินการจ่ายเงินผ่านช่องทางของกรมบัญชีกลาง ซึ่งจะมีการจ่ายเบี้ยคนพิการให้ทุกเดือนอยู่แล้ว

*ยันเฟส 2 ไม่ล้ม รอพัฒนาระบบ

ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 นั้น ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลยังยืนยันที่จะดำเนินการต่อไป และเป็นสิ่งที่ต้องทำต่อ เพราะเป็นโครงการที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย เป็นเครื่องมือของรัฐบาลในอนาคตที่จะนำเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และเป็นการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ส่วนจะพร้อมได้เมื่อไรนั้น ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับระบบเป็นหลัก หากระบบแล้วเสร็จ ก็คงจะได้มีการจ่ายเงินให้ประชาชนในเฟสที่ 2 ต่อไป

"ยืนยันว่าคนที่ลงทะเบียนไว้แล้ว ก็ยังมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงิน ไม่ได้ล้ม ส่วนจะทันปีนี้หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบ โดยมองว่าเมื่อรัฐบาลได้จ่ายเงินให้กับกลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มแรกไปแล้ว เชื่อว่าแรงกดดันของโครงการเรื่องการจ่ายเงินก็น่าจะลดลง หลังจากนี้รัฐบาลก็จะมีเวลาในการพัฒนาระบบให้มากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามข้อกังวลของหน่วยงาน โดยเฉพาะเรื่องการเร่งดำเนินการด้านระบบมากเกินไป จนอาจไม่ได้ทดสอบระบบอย่างมีประสิทธิภาพจนเกิดความมั่นใจ ดังนั้น ตรงนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลจะพัฒนาระบบเป็นอย่างดี และทดสอบจนเป็นที่มั่นใจ" นายลวรณ กล่าว

สำหรับข้อกังวลต่อข้อจำกัดเรื่องงบประมาณนั้น ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า วันนี้รัฐบาลมีงบประมาณปี 2568 ที่จะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.87 แสนล้านบาท ส่วนจะนำมาดำเนินการในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างไรบ้าง คงขึ้นอยู่กับการจัดสรร ซึ่งวันนี้มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" แล้วประมาณ 32 ล้านคน เมื่อหักกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนไปแล้ว ก็ต้องมาดูว่ายังเหลือประชาชนที่จะได้รับสิทธิอีกเท่าไร และจะดำเนินการจ่ายเงินอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบาย โดยทุกอย่างต้องค่อยเป็นไปทีละขั้นตอน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุถึงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในโครงการว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อที่จะให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว เพราะฉะนั้นสิ้นเดือนนี้เม็ดเงินจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทย เป็นเงินสดและจะมีการจับจ่ายใช้สอย โดยตัวเลขทางเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า การบริโภคขั้นสุดท้ายของกลุ่มเปราะบางมีแนวโน้มใช้เงินค่อนข้างสูง แทนที่จะเป็นการออม ทำให้เงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจค่อนข้างดี

นายจุลพันธ์ ระบุว่า ยอดลงทะเบียนปัจจุบันอยู่ที่ 32 ล้านคนเศษ ซึ่งจะปิดการลงทะเบียน ในวันที่ 15 กันยายนนี้ในกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน ส่วนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนแต่ยังจะไม่ลงทะเบียนต่อในทันที เพราะอยากจะให้การจ่ายเงินในกลุ่มแรกจบก่อน ส่วนจะเปิดลงทะเบียนเมื่อไหร่นั้นจะชี้แจงอีกครั้ง ซึ่งจะเลื่อนไปไม่นาน คาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนไม่มากเท่าไหร่

ส่วนในโครงการถัดไปต้องดูกันว่าเมื่อเราไม่เปลี่ยนก็จะเป็นเงินก้อนเดียว การดูจังหวะให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดระลอกคลื่น ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการที่รัฐบาลเข้ามาใหม่ก็มีกลไกที่จะเดินหน้า โดยยืนยันว่า มีการจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว 1.87 แสนล้านบาทไว้แล้ว แต่อาจจะต้องจ่ายได้ในปีหน้า

โดยนายจุลพันธ์ ยอมรับว่า ระบบดิจิทัลวอเล็ตล่าช้า เนื่องจากมีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ในช่วงเดือนที่ผ่านมาเป็นจังหวะที่ทำอะไรไม่ได้มากนัก คาดว่าระบบจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี และยืนยันว่าจะต้องทดสอบระบบให้เกิดความมั่นใจที่สุดเพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ และเป็นโครงการที่ประชาชนมีส่วนร่วมมาก เมื่อทุกอย่างพร้อมเม็ดเงินพร้อมก็จะเดินหน้าโครงการ หากสามารถจัดสรรได้ภายในปีเดียว ก็ดำเนินการ หากไม่ได้จะไม่เร่งเครื่องทางกลางคลังจนเกินความเหมาะสม จะไม่มีการพยายามรวบรวมงบประมาณจากส่วนต่าง ๆ ตามข้อห่วงใยเช่นห่วงว่าจะไปตัดมาจากงบกลาง

"แนวความคิดปัจจุบัน จากข้อสังเกตุสมาชิกสภาที่ได้ให้ข้อสังเกตุด้วย เราจะไม่เร่งทางการคลังจนเกินความเหมาะสม หมายความว่า จะเอางบประมาณจากทางนั้น ทางนี้มารวมกันเพื่อให้เดินได้ เราอาจไม่ทำขนาดนั้น ที่มีข้อห่วงใยไปตัดงบกลางมา 9 หมื่นล้านหรือแสนล้านบาท คงไม่ดำเนินการอย่างนั้น แต่รอดูจำนวนให้ชัดเจน หลังจากนั้นดูความเหมาะสม"นายจุลพันธ์ กล่าว

ส่วนแนวคิดเฟส 2 จะมีการแบ่งจ่ายเป็นเงินสด 5,000 บาทและอีกส่วนจ่ายเป็นดิจิทัล วอลเล็ตหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังพูดชัดไม่ได้ ขอรอตัวเลขสุดท้าย พอลงทะเบียนเสร็จมีการตรวจสอบสิทธิ์ทั้งหมด เมื่อรู้ยอดทั้งหมดก็จะมาบริหารจัดการได้ หากมียอดลงทะเบียนไม่มาก เช่น ประมาณ 32 ล้านคน อาจจะทำทีเดียวจบก็ได้ แต่ถ้ามีคนลงทะเบียนเพิ่มเติม อาจต้องพิจารณาให้เหมาะสมต่อไป

สำหรับข้อดีการกระตุ้นเศรษฐกิจมี 2 ระลอก จะเกิดระลอกคลื่นต่อผลกระทบในเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจมีความต่อเนื่องและยาวนาน ซึ่งรัฐบาลก็ปฏิบัติตามข้อห่วงใยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เคยทักท้วงว่า การลงเงินไปครั้งเดียวเห็นตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง แต่ปีหน้าการเติบโตทางเศรษฐกิจลดลง ซึ่งกลไกนี้จะช่วยให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่มีระยะยาวขึ้น

"การใส่ก้อนใหญ่ไปตูมเดียว มันจะเกิดคลื่นลูกใหญ่ แต่ไม่ระยะยาว ไม่เกิดแรงเหวี่ยงเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งก็เราก็คิดก็ต้องหากลไกอื่นไปเสริม ขณะเดียวกันเมื่อรูปแบบเปลี่ยน กลไกกระตุ้นเศรษฐกิจให้เป็นระลอก มีแรงเสริมส่ง ระลอกแรกลงไป มีระยะเวลาเว้นที่ให้เงินที่เข้าไปมีผลต่อระบบเศรษฐกิจแล้ว เติมก้อนถัดไปเพื่อให้มีคลื่นต่อเสริมส่งจากระลอกแรก เพื่อให้มีผลกระทบเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง"นายจุลพันธ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ