ธุรกิจสื่อ-สิ่งพิมพ์ อนาคตกำไรยังอ่อนตัวปัจจัยแวดล้อมไม่เอื้อซ้ำเจอแรงกดดันแข่งขันดุเดือด-ต้นทุนสูง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 17, 2024 13:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เปิดรายงาน Industry Analysis and Outlook แนวโน้มธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยระบุว่า แนวโน้มใน 12 เดือนข้างหน้า รายได้ของธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์คาดว่าจะอ่อนตัวลง ตามการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้ บริโภคที่จำกัด ขณะที่ภาระต้นทุนการผลิต การขาย และการดำเนินงานยังอยู่ในระดับสูง ทำให้เป็นแรงกดดันต่อการทำกำไรของผู้ประกอบ การต่อไป

การแข่งขันในธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์มีแนวโน้มที่จะเข้มข้นมากขึ้น โดยการแข่งขันมุ่งเน้นการลดต้นทุนเพื่อฟื้นกำไร การเข้ามา ของผู้ประกอบการรายใหม่ทำได้ง่ายขึ้น การผลิตเนื้อหาสื่อมีความหลากหลายมากขึ้น การสร้างรูปแบบธุรกิจ ครบวงจร และการจับมือเพื่อ สร้างพันธมิตรธุรกิจร่วมกันของผู้ประกอบการ

*การแข่งขัน (Competition)

ทริสเรทติ้งมองว่าการแข่งขันที่น่าสนใจและน่าจับตามองในธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์มี 5 ด้าน ได้แก่ การแข่งขันลดต้นทุน ผู้ ประกอบการรายใหม่เข้ามาในธุรกิจได้ง่ายขึ้น การผลิตเนื้อหาสื่อมีความหลากหลายมากขึ้น การปรับโครงสร้างธุรกิจให้เป็นสื่อครบวงจร และการจับมือสร้างพันธมิตรธุรกิจ

การแข่งขันมุ่งเน้นการลดต้นทุน เพื่อฟื้นกำไร ธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ของไทยพัฒนามาถึงจุดเปลี่ยน (Secular Change) ที่ พฤติกรรมการรับสื่อของผู้บริโภค มีการตอบสนองต่อการนำเสนอสื่อผ่านแพลตฟอร์มแบบออนไลน์อย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการจึงต้องเพิ่มการ ลงทุนใหม่ในระบบออนไลน์ รวมถึงการลงทุนด้านผลิตเนื้อหาสื่อ และการนำเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์มาช่วยให้เกิดประสิทธิภาพ การ แข่งขันจึงมุ่งเน้นในการควบคุมต้นทุนเพื่อฟื้นกำไร และนำมาซึ่งการลดจำนวนพนักงานเก่าที่เคยรองรับรูปแบบธุรกิจสื่อโทรทัศน์ดิจิทัลแบบเดิม ลงอย่างต่อเนื่อง

การเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ทำได้ง่ายขึ้น ด้วยอัตราการเข้าถึงสื่อและโซเซียลมีเดียของคนไทยอยู่ในระดับสูง ผู้ บริโภคจึงสามารถเข้าถึงตลาดได้ในหลากหลายช่องทาง ทั้งดิจิทัล ออนไลน์ และออฟไลน์ ด้วยโครงสร้างและห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจของธุรกิจ สื่อและสิ่งพิมพ์ที่กว้าง และความต้องการที่ยังเพิ่มขึ้นตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับสื่อของผู้บริโภค กอปรกับการทำสื่อบนแพลตฟอร์ม แบบออนไลน์และโซเชียลมีเดียที่ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาออกอากาศและมีต้นทุนต่ำ อุปสรรคในการเข้ามาแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้จึงลดลง และผู้ประกอบการรายใหม่สามารถเข้ามาแข่งขันได้ง่ายขึ้น

การผลิตเนื้อหาสื่อมีความหลากหลายมากขึ้น ในส่วนของการผลิตเนื้อหาสื่อ มีการปรับเปลี่ยนให้มีความหลากหลาย ทันต่อ เหตุการณ์ สามารถตอบโจทย์ตามความต้องการและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยเนื้อหาจะมุ่งเน้นตลาดเฉพาะด้าน และเน้น วิถีชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ เช่น ความงาม สุขภาพ ท่องเที่ยว อาหาร และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ รวมถึง การทำละครซีรี่ย์และภาพยนตร์ สำหรับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ และการให้บริการผลิตสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยที่มีความหลากหลายและครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น

การปรับโครงสร้างธุรกิจให้เป็นสื่อครบวงจร เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการแข่งขัน รวมทั้ง ลดแรงกดดันจากต้นทุนการจัดการและ ต้นทุนลิขสิทธิ์ที่สูงขึ้น ผู้ประกอบการหลายรายมีการปรับโครงสร้างธุรกิจและควบรวมธุรกิจให้เป็นสื่อครบวงจร รวมทั้ง การใช้กลยุทธ์ผสม ผสานสื่อ โดยบริษัทดำเนินธุรกิจในด้านการผลิตเนื้อหาสื่อและการเผยแพร่เนื้อหาสื่อผ่านทั้งทางช่องทางโทรทัศน์ดิจิทัล ช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อทำให้เกิดการเอื้อประโยชน์กันทางธุรกิจและประโยชน์ในการลดต้นทุน เช่น การปรับโครงสร้างธุรกิจของ AMARIN, GRAMMY, NATION และ WORKPOINT

การจับมือสร้างพันธมิตรธุรกิจ เพื่อพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาสื่อ จึงมีการจับมือสร้างพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการ เพื่อเอื้อประโยชน์ ในการใช้ความชำนาญของผู้ประกอบการในการร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ เช่น MAJOR ร่วมลงทุนผลิตภาพยนตร์ กับ WORKPOINT กับสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 และกับช่อง 7 รวมทั้งร่วมลงทุนในบริษัทผลิตภาพยนตร์เพื่อสร้างภาพยนตร์ที่มีคุณภาพสำหรับรอง รับตลาดทั้งในและนอกประเทศ

*ผลประกอบการของธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ (Group Performance)

หน่วย: ล้านบาท                         2564     2565     2566     1H66     1H67
รายได้รวม                            43,192   54,233   59,254   28,085   26,792
อัตราเติบโต (%)                       -1.15%    25.56%    9.26%   250.72%  -4.60%
ต้นทุนขายและบริการ                     27,975   36,292   40,522   19,086   18,104
อัตราเติบโต (%)                       513.32%   29.73%   11.66%   242.42%  -5.15%
กาไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษี ค่าเสื่อมราคา
และค่าตัดจาหน่าย (EBITDA)               14,751  16,708    14,782   7,672    6,805
อัตราเติบโต (%)                        16.75%   13.27%   -11.53% 154.43%   -11.30%
รายได้สุทธิ                             6,834    3,572      299    1,197      775
อัตราเติบโต (%)                      -543.64%  -47.73%   -91.64%   285.51% -35.31%
อัตรากาไรสุทธิ (%)                      15.82     6.59      0.50     2.13     1.45
อัตราส่วนเงินทุนจากการดาเนินงานต่อหนี้สิน (%) 32.38    35.16     38.68    46.98    44.95
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า)        0.39     0.40      0.32     0.30     0.25

แนวโน้มรายได้ลดลง: รายได้รวมของผู้ประกอบการสื่อและสิ่งพิมพ์ในครึ่งแรกของปี 2567 (1H67) ปรับตัวลดลง 4.60% จากปีก่อนหน้า โดยรายได้รวมของผู้ประกอบการสื่อโทรทัศน์ดิจิทัลและสำนักพิมพ์ลดลง 12.16% และ 7.85% ตามลำดับ ในขณะที่รายได้ รวมของผู้ประกอบการสื่อโฆษณานอกบ้านอย่างเช่น PLANB และ VGI ยังคงเติบโตที่ 5.47% ซึ่งเป็นการเติบโตที่ต่อเนื่องจากปี 2566 และมีแนวโน้มที่จะดีต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2567

สำหรับผู้ประกอบการสื่อโทรทัศน์ดิจิทัลกลับมีรายได้โฆษณาและขายช่วงเวลาโฆษณาที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งแรกของ ปี 2567 ปรับตัวลดลง 5.6% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากลูกค้าที่ต้องการใช้สื่อโฆษณามีทางเลือกในการใช้สื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์ม แบบออนไลน์และโซเชียลมีเดียที่มีต้นทุนต่ำกว่าและเข้าถึงได้ง่ายกว่า

ต้นทุนยังอยู่ในระดับสูง ทำให้กำไรลดลง: ด้วยต้นทุนขายและบริการของธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ที่ยังอยู่ในระดับสูงมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ทำให้กำไรสุทธิลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2564 ถึงปี 2566 ในช่วง 1H67 แม้ต้นทุนขายและบริการเริ่มปรับลดลง 5.15% แต่กำไรสุทธิยังลดลง 35% จากปีก่อนหน้า แรงกดดันจากต้นทุนจัดการและต้นทุนลิขสิทธิ์ที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องลดจำนวน พนักงานลงอย่างต่อเนื่องและหันมาลงทุนในระบบทีวีออนไลน์มากขึ้น

สภาพคล่องและการก่อหนี้ยังทรงตัว: อัตราการก่อหนี้ของผู้ประกอบการสื่อและสิ่งพิมพ์มีระดับไม่สูงนัก โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อ ส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.3 ถึง 0.4 เท่าในช่วงปี 2564 ถึงปี 2566 ขณะที่อัตราส่วนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.25 เท่าในช่วง 1H67 ใน ด้านสภาพคล่องของผู้ประกอบการสื่อและสิ่งพิมพ์นั้น ยังอยู่ในระดับสูง โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินอยู่ในระดับเฉลี่ย ประมาณ 35% ในช่วงปี 2564 ถึงปี 2566 และมีแนวโน้มทรงตัวในปี 2567

*แนวโน้มใน 12 เดือนข้างหน้า: กำไรอ่อนตัว

ข้อจำกัดจากปัจจัยแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเติบโต: เศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคถด ถอยลงตั้งแต่ไตรมาส 1 จึงไม่เอื้อต่อการขยายตัวของธุรกิจในปี 2567 โดยเฉพาะ สื่อโทรทัศน์ดิจิทัลที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันจาก สื่อออนไลน์ รวมทั้ง การให้พนักงานกลับไปทำงานตามปกติของหลายภาคส่วนเป็นการจำกัดเวลาในการรับสื่อผ่านโทรทัศน์ที่บ้าน จึงสร้าง แรงกดดันให้รายได้ของโทรทัศน์ดิจิทัลไม่ขยายตัวเท่ากับในปี 2565 และปี 2566

รายได้และกำไรยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลง: รายได้และกำไรของธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์คาดว่าจะอ่อนตัวลงต่อไป ตามการชะลอตัว ลงของเศรษฐกิจและการหดตัวด้านกำลังซื้อของผู้บริโภค ในขณะที่ต้นทุนการผลิตและบริการลดลงได้ไม่มากและต้องลงทุนในระบบใหม่ จึงทำ ให้ความสามารถในการทำกำไรไม่สามารถฟื้นตัวได้ดีในอนาคต

รายได้โฆษณาของโทรทัศน์ดิจิทัลยังมีแนวโน้มลดลง: การเติบโตของสื่อโฆษณาออนไลน์ที่เข้ามาแข่งขันกับโทรทัศน์ดิจิทัลรวม ทั้ง ทางเลือกในการทำกิจกรรม ณ จุดขาย หรือการจัดอีเว้นท์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้มากขึ้น เป็นปัจจัยที่ยังทำให้รายได้โฆษณาของ โทรทัศน์ดิจิทัลมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี 2567

*ปัจจัยเสี่ยง (Risk Factors)

ธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์เผชิญความเสี่ยงหลัก ได้แก่

  • ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคทั้งในและต่าง
ประเทศลดลง ทริสเรทติ้ง คาดการณ์การเติบโตของ GDP ที่แท้จริงที่ 2.6% ในปี 2567 โดยมีการบริโภคภาคเอกชนและการฟื้นตัวของ
การส่งออกเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก และมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของการส่งออกในภาคบริการอันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว
ต่างชาติ
  • ความเสี่ยงจากการแข่งขันที่สูงขึ้น การแข่งขันผ่านช่องทางออนไลน์ ที่เข้าถึงง่ายและต้นทุนต่ำ ทำให้เกิด Digital
disruption ที่กระทบต่อผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัลโดยตรง ผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์และโครงสร้างธุรกิจเพื่อตั้งรับกับภาวะการ
แข่งขัน ขณะเดียวกัน สื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งเป็นสื่อดั้งเดิมยังคงได้รับผลกระทบจากการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับสื่อของผู้บริโภค
ผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการสื่อสิ่งพิมพ์ จึงถดถอยลงอย่างมาก โดยล่าสุด POST มีการเพิกถอนจากการจดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์
  • ความเสี่ยงจากการหมดอายุใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิทัล ในขณะที่ใบอนุญาตประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัลจะหมด
อายุทุกช่องในปี 2572 ผู้ประกอบการจึงมีความเสี่ยง เนื่องจากยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนว่าจะมีการเปิดประมูลใหม่ หรือต่ออายุสัญญา หรือมี
แนวนโยบายอย่างไร ทั้งนี้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำลังทำการ
ศึกษาแนวทาง ประเมินสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรม รวมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลและรับข้อเสนอแนะเพื่อนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจวาง
นโยบายต่อไป
  • ความเสี่ยงด้านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เริ่ม
บังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2565 ซึ่งกระทบต่อการนำเสนอเนื้อหาข่าวของผู้ประกอบการสื่อที่อาจสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิด
สิทธิส่วนบุคคล ทำให้การผลิตเนื้อหาสื่อต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และมีแนวปฏิบัติในการผลิตและเผยแพร่เนื้อหาสื่อที่ปฎิบัติเป็นมาตรฐาน
ร่วมกันและสอดคล้องกับกฎหมาย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ