สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และฮ่องกง ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีอัตราการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก
สถาบันไอเอ็มดี (IMD) เผยแพร่รายงานประจำปีเกี่ยวกับขีดความสามารถด้านการแข่งขันในเวทีโลก (World Competitiveness Yearbook) โดยได้จัดอันดับ 55 ประเทศที่มีขีดความสามารถด้านการแข่งขันสูงสุดโดยประเมินจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สำคัญ 4 ประการ ได้แก่ ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล ประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ และระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
รายงานดังกล่าวระบุว่า นอกจากสหรัฐ สิงคโปร์ และฮ่องกงจะขึ้นแท่นเป็นผู้นำประเทศที่มีอัตราการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่ดุเดือดสูงสุดแล้ว ประเทศอื่นๆที่ติดทำเนียบ 10 อันดับสูงสุด ประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เดนมาร์ก ออสเตรเลีย แคนาดา สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ ขณะที่ไต้หวันและจีนเป็นชาติในทวีปเอเชียที่ถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีอัตราการแข่งขันสูงในอันดับ 13 และ 17 ตามลำดับ ตามด้วยญี่ปุ่นที่รั้งอันดับ 22 อินเดียอยู่ที่ 29 ส่วนเกาหลีใต้ครองอันดับที่ 31
ซูซาน รอสเซเลท-แม็คคอลีย์ รองผู้อำนวยการของสถาบันไอเอ็มดีกล่าวว่า แม้ว่าจีนจะตกอันดับลงไป 2 ขั้นจากปีที่ผ่านมา แต่จีนยังมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่เอื้อให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น
นอกจากนี้ ทางสถาบันยังได้ตั้งคำถามกับสถานะของยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐว่า ท่ามกลางวิกฤติการเงินและการที่เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงสูงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยจนทำให้ประเทศอาจก้าวตามรอยญี่ปุ่นในการเผชิญกับภาวะล่มสลายทางเศรษฐกิจเมื่อปี 2533 นั้น สหรัฐจะยังสามารถครองบัลลังก์ความเป็นผู้นำด้านการแข่งขันในปีหน้าต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาพี่ใหญ่ทางเศรษฐกิจรายนี้จะยังไม่เคยสละตำแหน่งดังกล่าวให้กับประเทศใดมาตั้งแต่ปี 2537
"ที่ผ่านมาเราเห็นมาตลอดว่าสหรัฐครองความเป็นหนึ่งมายาวนาน แต่ในปีพ.ศ.2551 สหรัฐอาจพบจุดเปลี่ยนที่สำคัญเมื่อต้องตกอันดับจากที่เคยครองความเป็นที่หนึ่งมาโดยตลอด"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--