นายเสถียร ตันธนะสฤษดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจตลาดเงิน ธนาคารทหารไทย (TMB) คาดว่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงมาอยู่ในระดับ 33-35 บาท/ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นอีก และคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 21 พ.ค.นี้ โดยอัตราดอกเบี้ยอาร์/พีในปีนี้น่าจะอยู่ในระดับ 3.25%
นายเสถียร กล่าวว่า เงินบาทแข็งค่ามากว่า 2 ปีถึงเวลาที่จะอ่อนค่าลงแล้ว และที่ผ่านมาเงินบาทก็แข็งค่ากว่าค่าเงินในภูมิภาค แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้ โดยเหตุผลที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงมา น่าจะเป็นเพราะจากแนวโน้มความต้องการดอลลาร์จะมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็คต์รถไฟฟ้า รวมทั้งความต้องการเงินทุนในประเทศ แต่ยังไม่เห็นว่ามีการเก็งกำไรในค่าเงินเข้ามาเป็นปัจจัยด้วยในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงก็จะมีผลทำให้ต้นทุนการนำเข้าเชื้อเพลิงสูงขึ้น ซึ่งเป็นแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นอีกและมีผลไปถึงอัตราดอกเบี้ยในประเทศด้วย โดยคาดว่า กนง.ในการประชุม 21 พ.ค.นี้ คงจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาร์/พี และอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับระยะเวลาที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วย โดยจะต้องดูจาอัตราเงินเ้ฟ้อเป็นหลัก ประกอบกับข้อมูลอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ด้วย โดยคาดว่าทั้งปีอัตราดอกเบี้ยอาร์/พีน่าจะอยู่ที่ 3.25%
นายเสถียร กล่าวว่า ในการประชุมเฟด 25 มิ.ย.ก็คงจะไม่ลดดอกเบี้ยลงเช่นกัน เพราะภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐเริ่มเห็นสัญญาณที่ดี และเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยเฟดจะปรับขึ้นในช่วงไตรมาส 4/51
--อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--