ผลสำรวจความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2551 เนื่องจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งซึ่งนำโดยกลุ่มธุรกิจก่อสร้างในเยอรมนีสามารถชดเชยภาวะชะลอตัวในกลุ่มธุรกิจบริการและอุตสาหกรรมการผลิตได้เป็นอย่างดี
นักวิเคราะห์ 32 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในเขตยูโรโซนประจำไตรมาสแรกของปีนี้จะขยายตัวขึ้น 0.5% จากระดับที่โตขึ้น 0.4% ในช่วงไตรมาสก่อนหน้านี้ ขณะที่ผลสำรวจอีกฉบับระบุว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นแตะระดับ 0.7 ในไตรมาสแรกจากระดับ 0.3%
อย่างไรก็ตาม อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่กระเตื้องขึ้นอาจเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆเท่านั้น เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายด้านสินเชื่อที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับสถานการณ์เงินยูโรที่แข็งค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวเหนือระดับ 125 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ ธนาคารกลางยุโรปได้ส่งสัญญาณถึงความต้องการที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่หลายประเทศยังคงต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี
"หลายภาคธุรกิจในยุโรปมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือธุรกิจก่อสร้าง" เคนเนธ แวทเทรท หัวหน้านักวิเคราะห์กลุ่มประเทศยุโรปจากบีเอ็นพี พาริบาสในกรุงลอนดอนกล่าว "แต่ทว่าในประเทศอื่นๆกลับมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ซบเซาและมีปัจจัยบ่งชี้หลายประการที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงขาลง"
ทั้งนี้ บีเอ็นพีกล่าวว่า ระดับความเชื่อมั่นในเขตยูโรโซนเดือนเม.ย.ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ขณะที่อัตราการผลิตชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 3 นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกยังดิ่งลงในเดือนมี.ค. ซึ่งอาจทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนชะลอตัวแตะที่ระดับ 0.2% ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--