ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.37 แนวโน้มผันผวนในกรอบ 32.20-32.45 จับตาข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 30, 2024 09:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 32.37 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากปิดสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 32.40 บาท/ดอลลาร์

โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นทะลุแนวรับที่เราประเมิน ตามโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำและความหวัง การฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนซึ่งหนุนให้เงินหยวนจีน และบรรดาสกุลเงินฝั่งเอเชียแข็งค่าขึ้น

สำหรับสัปดาห์นี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ นอกจากนี้ ควรรอติดตามถ้อย แถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก ส่วนปัจจัยในประเทศ รอลุ้นรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นภาค ธุรกิจในเดือนกันยายน พร้อมจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ หลังดัชนี SET ยังคงมีความเสี่ยงอาจย่อตัวลงได้ บ้างในระยะสั้น

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท มองว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทยังมีอยู่ แต่เห็นโอกาสที่เงินบาทอาจชะลอการแข็ง ค่าขึ้น หากเงินดอลลาร์รีบาวด์ขึ้นได้จริง

"เงินบาทแข็งค่าหลุดทุกโซนแนวรับที่เราได้ประเมินไว้ก่อนหน้า นอกจากนี้ เมื่อประเมินจากสถิติการเคลื่อนไหวของเงินบาท หลังรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ก็มีโอกาสที่เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นทะลุโซน 32.00 บาท/ดอลลาร์ ได้"นายพูน ระบุ

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 32.20-32.45 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 32.2875 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 142.77 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 143.01 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1170 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1140 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.435 บาท/ดอลลาร์
  • "แพทองธาร" มีกำหนดการร่วมประชุมระดับผู้นำระหว่างประเทศครั้งแรก เวที ACD ที่กรุงโดฮาร์ กาตาร์ 2-3 ต.ค.นี้
เตรียมขึ้นโชว์วิสัยทัศน์เศรษฐกิจ-การพัฒนา รับมือความท้าทายระดับภูมิภาค
  • "จุลพันธ์" รมช.คลัง เตรียมนัดหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าศึกษาผุด Entertainment Complex คาดไม่เกินต้น
เดือนต.ค.67 จะได้ข้อสรุปทั้งหมด ก่อนเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศซื้อคืนพันธบัตร (reverse repo) ระยะ 7 วัน มูลค่า 1.82 แสนล้านหยวน (ราว
2.596 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่อัตราดอกเบี้ย 1.5% เมื่อวันอาทิตย์ (29 ก.ย.) โดย PBOC ระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีจุด
มุ่งหมายเพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบธนาคารให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเพียงพอในช่วงปลายไตรมาส
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) เตรียมสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเดิมที่ยังผ่อนไม่หมด
(existing home loan) ก่อนวันที่ 31 ต.ค. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ที่มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูตลาด
อสังหาริมทรัพย์
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่ง
รวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.3%
จากระดับ 2.5% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของ
นักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.2% จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ค.
  • มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 70.1 ในเดือนก.
ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 69.3 จากระดับ 69.0 ในเดือนส.ค.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการขั้นสุด

ท้ายเดือนก.ย., ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนส.ค.,

ตัวเลขการจ้างงานภาคเอชนเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ