นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบ หน้าการโอนเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ซึ่งกรมบัญชีกลาง ได้เริ่มโอนเงินให้ กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.67 เป็นต้นมา
โดยในส่วนของการโอนเงินวันที่ 30 ก.ย.67 ให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีเลขประจำตัวประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8 - 9 จำนวน 2.25 ล้านราย พบว่า มีการโอนเงินไม่สำเร็จจำนวน 61,469 ราย ทำให้มียอดสะสมของการโอนเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ตลอดทั้ง 4 วัน สำเร็จแล้วรวมทั้งสิ้น 14.05 ล้านราย และการโอนเงินไม่สำเร็จจำนวน 381,287 ราย
หน่วย (ล้านคน)
กลุ่มเป้าหมาย สั่งจ่ายเงิน โอนสำเร็จ โอนไม่สำเร็จ (คน) 1. คนพิการ 2.04 2.03 8,829 2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ - บัตรประชาชนลงท้ายเลข 0 1.13 1.09 10,554 - บัตรประชาชนลงท้ายเลข 1-2 4.51 4.36 141,062 - บัตรประชาชนลงท้ายเลข 4-7 4.51 4.38 129,373 - บัตรประชาชนลงท้ายเลข 8-9 2.25 2.19 61,469 รวม 14.44 14.05 381,287
สำหรับภาพรวมสาเหตุการโอนเงินไม่สำเร็จของกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม เป็นดังนี้
1. คนพิการ เช่น บัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด เลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้อง เป็นต้น
2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช่น ยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว บัญชีเงินฝาก ธนาคารถูกปิด เลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้อง เป็นต้น
ดังนั้น จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน หรือติดต่อธนาคาร เพื่อแก้ไขบัญชี เงินฝากธนาคารที่มีปัญหาข้างต้น เพื่อให้พร้อมรับเงินตามโครงการฯ ในรอบการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) และสำหรับคนพิการที่บัตรประจำตัว คนพิการหมดอายุ หรือผู้ได้รับเงินเบี้ยความพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ ข้อมูลบัตรประจำตัวคนพิการไม่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้ รับการโอนเงินเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ขอแนะนำให้ดำเนินการต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ทำบัตรประจำตัวคนพิการ หรือแก้ไข ข้อมูลประจำตัวคนพิการที่ศูนย์บริการคนพิการทั่วประเทศให้ถูกต้องภายในกำหนดเวลา ดังนี้
รอบจ่ายซ้ำ จ่ายเงินภายในวันที่ ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัว ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับ คนพิการภายในวันที่ เลขประจำตัวประชาชน/แก้ไขบัญชีภายในวันที่ ครั้งที่ 1 22 ตุลาคม 2567 10 ตุลาคม 2567 18 ตุลาคม 2567 ครั้งที่ 2 22 พฤศจิกายน 2567 12 พฤศจิกายน 2567 18 พฤศจิกายน 2567 ครั้งที่ 3 22 ธันวาคม 2567 3 ธันวาคม 2567 16 ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับ เงินภายใต้โครงการฯ
นอกจากนี้ กรณีเป็นบุคคลล้มละลายหรือถูกพิทักษ์ทรัพย์สามารถดำเนินการเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อรับเงินตามโครงการฯ และ สามารถถอนเงินได้ โดยดำเนินการยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อขออนุญาตเปิด/ใช้บัญชีเพื่อรับเงินตามโครงการกระตุ้น เศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โดยต้องดำเนินการเปิดบัญชีเงินฝากและผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัว ประชาชนให้แล้วเสร็จภายในกำหนดการ Retry
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีเม็ดเงินจากโครงการฯ หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจแล้วจำนวน 140,573.41 ล้านบาท ขอให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับเงินส่วนนี้แล้ว วางแผนการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าและให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและ ครอบครัว