ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดงานเปิดตัวโครงการ "Your Data : ข้อมูลของคุณ สู่บริการทางการเงินที่ตอบโจทย์" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ธปท.กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนากลไกให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้สิทธิส่งข้อมูลของตนที่อยู่กับผู้ให้บริการและหน่วยงานต่าง ๆ ไปยังผู้ให้บริการที่ตนต้องการใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลได้สะดวกและปลอดภัย เพื่อให้ได้รับบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์มากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงสินเชื่อและการบริหารจัดการทางการเงินที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล (personalized financial planning)
โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงานว่า ข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งภาครัฐอยู่ระหว่างขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ที่ล้วนต้องอาศัยข้อมูลในการขับเคลื่อน เช่น การบูรณาการข้อมูลจากภาครัฐเพื่อออกแบบนโยบายที่ตรงจุด ในภาคการเงินข้อมูลที่ไหลเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยยกระดับการให้บริการและปิดช่องว่างการเข้าถึงบริการทางการเงินที่สำคัญในระบบการเงินไทย ซึ่งความร่วมมือระหว่าง ธปท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนากลไกให้ประชาชนและ SMEs ใช้สิทธิส่งข้อมูลของตนทางดิจิทัลเพื่อให้ได้รับบริการทางการเงินที่ดีขึ้นจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนและการต่อยอดเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
ขณะที่นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า เรามีสิทธินำข้อมูลของเรามาใช้ประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดย ธปท.และทุกหน่วยงานที่ร่วมโครงการ Your Data มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างกลไกให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิส่งข้อมูลของตนที่อยู่ทั้งในและนอกภาคการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อให้ได้รับบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์มากขึ้น โดยกลไกการส่งข้อมูลดังกล่าวต้องสะดวก ปลอดภัย ไม่ถูกปิดกั้นทางเลือก และใช้งานได้จริง แต่กลไกนี้จะสำเร็จได้ต้องอาศัยการวางกฎกติกาให้ผู้ให้บริการจัดทำช่องทางการใช้สิทธิส่งข้อมูลที่ปลอดภัย เป็นไปตามธรรมาภิบาลข้อมูล และมีการคุ้มครองผู้ใช้บริการอย่างเหมาะสม และการมีส่วนร่วมจากผู้ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนามาตรฐานการรับส่งข้อมูลระหว่างกัน
ด้านนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า การพัฒนากลไกรองรับสิทธิไม่อาจเกิดขึ้นหรือสำเร็จได้หากปราศจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่ผ่านมาสำนักงาน คปภ.ได้ขับเคลื่อนแนวทางการเปิดกว้างการเข้าถึงข้อมูลในธุรกิจประกันภัย (Open Insurance) มาอย่างต่อเนื่อง การพัฒนากลไกรองรับสิทธิของลูกค้าจะเป็นอีกก้าวสำคัญของภาคการเงินที่จะทำให้การนำข้อมูลใช้ประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยพัฒนาธุรกิจประกันภัยให้ทันสมัยและเกิดนวัตกรรม ทำให้ผู้บริโภคเลือกบริการที่เหมาะสมกับตนเองและวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นางวรัชญา ศรีมาจันทร์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า สำนักงาน ก.ล.ต.จะพัฒนากรอบกฎหมายให้เอื้อต่อการรับส่งข้อมูลได้อย่างปลอดภัย มีการคุ้มครองผู้ลงทุน และมีความยืดหยุ่นเพื่อไม่ปิดกั้นนวัตกรรมหรือเป็นอุปสรรคต่อการเข้าร่วมโครงการ ควบคู่ไปกับความร่วมมือจากผู้ประกอบธุรกิจเพื่อพัฒนามาตรฐานและแนวปฏิบัติที่จะใช้ร่วมกัน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการเข้าถึงบริการในภาคตลาดทุนและมีทางเลือกการลงทุนมากขึ้น รวมถึงผู้ลงทุนจะสามารถเห็นบัญชีการลงทุนของตนที่อยู่กับผู้ให้บริการต่าง ๆ ในภาพรวมได้ด้วย
ขณะที่ผู้ให้บริการภาคการเงิน ได้แก่ บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้นำเสนอแนวคิดและตัวอย่างบริการทางการเงินที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น หากมีกลไกให้ผู้ใช้บริการใช้สิทธิส่งข้อมูลตนเองได้ ได้แก่ การขอสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งสามารถส่งข้อมูลที่หลากหลายจากต้นทางมาประกอบการขอสินเชื่อ และทราบผลอนุมัติภายในไม่กี่นาที โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายประชาชนที่เคยถูกปฏิเสธการขอสินเชื่อจากธนาคารหรือเคยขอสินเชื่อนอกระบบ การรวมศูนย์การบริหารจัดการและวางแผนทางการเงิน ซึ่งลูกค้าสามารถบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินได้ในที่เดียว ทั้งการออมการลงทุน การบริหารค่าใช้จ่าย และการบริหารหนี้สิน การนำเสนอประกันภัยที่เหมาะสมกับลักษณะของลูกค้า ซึ่งให้ความคุ้มครองตามมูลค่าเงินฝากหรือทรัพย์สินของลูกค้า และการพัฒนาบริการสำหรับลูกค้านิติบุคคล เพื่อรองรับการให้สินเชื่อและการบริหารจัดการทางการเงิน
ทั้งนี้ ธปท.เชื่อมั่นว่าเมื่อผู้ใช้บริการสามารถใช้สิทธิส่งข้อมูลของตนไปใช้ประโยชน์ได้ตามโครงการ Your Data จะนำมาสู่การยกระดับการเข้าถึงบริการทางการเงินครั้งสำคัญและจะช่วยลดช่องว่างทางการเงินได้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่ง ธปท.คาดว่าจะออกหลักเกณฑ์กำหนดกติกาสำหรับกลไกรับส่งข้อมูลในภาคสถาบันการเงินในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 และทยอยประกาศใช้มาตรฐานในปี 2568 โดยผู้ใช้บริการจะสามารถเริ่มใช้สิทธิส่งข้อมูลได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2569 สอดคล้องกับกรอบเวลาการดำเนินการในภาคตลาดทุนและภาคประกันภัย ส่วนการใช้สิทธิส่งข้อมูลที่อยู่นอกภาคการเงิน คาดว่าผู้ใช้บริการจะเริ่มนำข้อมูลแบบภาษีและการใช้และชำระค่าไฟฟ้าและประปามาใช้ประโยชน์ได้ในปี 2568