นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับเลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งในการหารือได้มุ่งเน้นประเด็นสำคัญเรื่องการส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งทางราง โดยคณะผู้แทนจากสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ให้ข้อเสนอที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนทางรางในหลายประเด็น ประกอบด้วย
1. มาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ซึ่งเป็นเรื่องที่สภาองค์กรผู้บริโภค และ ขร. ให้ความสำคัญ เนื่องจากช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ปัจจุบัน มาตรการดังกล่าวได้นำมาใช้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (คลองบางไผ่-เตาปูน) และรถไฟฟ้าสายสีแดง (ตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต) โดยปริมาณผู้โดยสารของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 66 ภายหลังเริ่มดำเนินมาตรการตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.66 เป็นต้นมา ในภาพรวมพบว่า มีผู้โดยสารรวมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน รวม 26.58% โดยจำนวนผู้โดยสารสายสีแดง เพิ่มขึ้น 51.84% ในขณะที่ปริมาณผู้โดยสารสายสีม่วง เพิ่มขึ้น 17.54% อีกทั้งได้หารือในประเด็น พ.ร.บ.ตั๋วร่วม, พ.ร.บ.การขนส่งทางราง และแหล่งเงินทุน เพื่อที่จะนำมาสนับสนุนมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท
2. การเชื่อมต่อรถไฟกับรถโดยสารประจำทาง (feeder) โดยเร่งพัฒนาการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น (รถโดยสารประจำทาง) กับระบบราง เช่น การจัดให้มีรถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้าเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟ การจัดให้มีทางเดินเชื่อมระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน
3. การอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร และการพัฒนามาตรฐานการบริการ ขร. มีการดำเนินโครงการประเมินคุณภาพสถานีขนส่งทาง โดยใช้หลักเกณฑ์การประเมินคุณภาพสถานีตามมาตรฐานสากล และกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 8 ด้าน พร้อมจัดทำข้อเสนอแนะ แนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพสถานีขนส่งทางราง เพื่อคนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงและใช้บริการรถไฟได้อย่างสะดวก ปลอดภัย มีความเสมอภาคและเท่าเทียม โดยยึดหลักการออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่ม (Universal Design)
ทั้งนี้ มีการประเมินคุณภาพสถานีอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2565 - 2567 จำนวน 64 สถานี แบ่งเป็น สถานีรถไฟ 28 สถานี และสถานีรถไฟฟ้า 36 สถานี เพื่อประเมินคุณภาพและความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสาร และจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงและใช้บริการของคนทุกกลุ่ม
"การหารือกับสภาองค์กรผู้บริโภคในครั้งนี้ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนา และส่งเสริมให้ประชาชนมาใช้การขนส่งด้วยระบบราง อีกทั้งเพิ่มการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ ให้ประชาชนทุกคนได้ใช้บริการอย่างเท่าเทียม และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง" อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ระบุ