นายฉมาดนัย มากนวล นักวิเคราะห์อาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.ย.อยู่ที่ 0.61% ขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบรายปี จาก 0.35%YoY ในเดือนก่อน แต่ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งมองไว้ที่ 0.8% โดยปัจจัยหลักส่งผลต่อการขยับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในเดือนนี้มาจากราคาอาหารสดที่ขยายตัว 2.31%YoY สูงขึ้นจาก 1.93%YoY เมื่อเดือนก่อน ตามราคาผักสดและผลไม้สดที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปัญหาอุทกภัยในบางพื้นที่ ประกอบกับราคาหมวดพลังงานหดตัวน้อยลงที่ 2.55%YoY เทียบกับ 3.10%YoY ในเดือน ส.ค. จากผลของฐานต่ำในปีก่อน ตามมาตรการบรรเทาภาระรายจ่ายกลุ่มพลังงานของภาครัฐ
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานแตะระดับ 0.77%YoY สูงกว่า 0.62%YoY ในเดือนก่อนเล็กน้อย จากการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าบางรายการหดตัวต่อเนื่อง เช่น หมวดพาหนะการขนส่งฯ สินค้าเสื้อบุรุษและสตรี ตลอดจนของใช้ส่วนบุคคล เป็นต้น ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป 9 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 0.20%YoY ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.48%YoY
กรณีเกิดเหตุอุทกภัยรอบล่าสุดถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ก.ย. ขยับแตะระดับ 0.61%YoY โดยภาวะน้ำท่วมซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายต่อพื้นที่เพาะปลูกสินค้าหลัก โดยเฉพาะข้าวนาปี อ้อย มันสำปะหลัง ตลอดจนผักและผลไม้ รวมทั้งยังเป็นอุปสรรคต่อการกระจายและจัดจำหน่ายสินค้า ทำให้ราคาสินค้าเกษตรและต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ผลกระทบจากภาวะชะงักงันดังกล่าวถือเป็นปัจจัยจากทางด้านอุปทาน ซึ่งเกิดขึ้นชั่วคราวและสามารถคลี่คลายลงได้ในระยะข้างหน้า
การขยับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเดือนนี้เป็นผลจากฐานต่ำในปีก่อน เนื่องจากภาครัฐมีมาตรการลดค่ากระแสไฟฟ้าและการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพื่อบรรเทาภาระรายจ่ายด้านพลังงานเมื่อช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมการปรับตัวของราคาสินค้าเทียบรายเดือนแล้วยังแผ่วลง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปหดตัวลง 0.10%MoM จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งถือเป็นกลุ่มสินค้าหลักที่มีสัดส่วนรวมถันถึง 2 ใน 3 ของตะกร้าเงินเฟ้อยังทรงตัวในระดับต่ำที่ 0.11%MoM ราคาสินค้าบางหมวด อาทิ เครื่องนุ่งห่ม และเคหสถาน (เช่น ของใช้ส่วนบุคคลภายในบ้าน) ลดลงบ่งชี้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศยังอ่อนแอและจะกดดันให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ
ล่าสุดจากการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2567 อยู่ที่ 0.7% ส่วนในปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.6% ต่ำกว่าค่ากลางของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ปัจจัยดังกล่าวอาจหนุนให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งจะมีการประชุมในกลางเดือน ต.ค.นี้มีท่าทีผ่อนคลายต่อการดำเนินนโยบายการเงินมากขึ้น