นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ตั้งเป้ารายได้ปี 68 ที่ 2.9-3.1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็น New High จากนักท่องเที่ยว 38-40 ล้านคน โดย สทท.มุ่งเน้นที่การกระจายนักท่องเที่ยวให้สมดุลเชื่อมเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว การสร้างตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่ใส่ใจต่อสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม มีการใช้จ่ายต่อทริปที่สูงขึ้น และการสร้าง Man-made / Community และ Event เพื่อลดการพึ่งพาธรรมชาติและกระจายรายได้ชุมชนท้องถิ่นและผู้ประกอบการ SME และทีสำคัญคือ การจัด Tourism Mega Event ในไทย ระดับ ITB / WTM เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำของโลกด้านการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม จากสภาวะวิกฤตน้ำท่วมได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท โดยในระยะสั้น สทท.ขอเสนอให้รัฐบาลอนุมัติโครงการเที่ยวคนละครึ่ง เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศ ทั้งเมืองที่ได้รับผลกระทบและเมืองน่าเที่ยว นอกจากนี้ยังต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ทั้งด้านความพร้อมหลังน้ำลด และความปลอดภัยหลังเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัส
นายชำนาญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันพรุ่งนี้จะประชุมร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยจะเสนอรายละเอียดต่อประธานบอร์ดททท. เพื่อนำไปเสนอรัฐบาลต่อไป โดยคาดว่าต้องการงบประมาณ 5,000 ล้านบาท จำนวนห้องพัก 5 ล้านคืน (Room night) ในการกระตุ้นไม่เกิน 2,000 บาท/คน เพื่อให้รายได้ไทยเที่ยวไทยสู่เป้าหมายประมาณ 900,000 ล้านบาทในปีนี้ได้
"จังหวัดเชียงใหม่สร้างรายได้ท่องเที่ยวต่อเดือนประมาณ 7,000 ล้านบาท เชียงรายสร้างรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งหากไม่เร่งฟื้นฟูพื้นที่ และการท่องเที่ยวให้กลับมาโดยเร็วที่สุด จะทำให้รายได้จาก 2 จังหวัดหายไป 10,000 ล้านบาท " นายชำนาญ กล่าว
สำหรับในระยะกลางและยาว ต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการท่องเที่ยว โดยปัจจุบัน สทท. กำลังเร่งยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เป็นผู้นำด้านความยั่งยืน โดย สทท.ได้จับมือกับ SME D Bank และ ททท. ขับเคลื่อนโครงการ Green Productivity เติมความรู้ควบคู่การเติมทุนผ่าน Green Loan 15,000 ล้านบาท เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเพิ่มมูลค่า ลดการใช้ทรัพยากรและมีประสิทธิภาพในการให้บริการที่ดีขึ้น
นายชำนาญ มองว่า ในส่วนการยกเว้นแบบตม. 6 ยังจำเป็น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ที่เข้ามาเที่ยวไทยเป็นอันดับ 2 และยังเป็นตลาดที่น่าสนใจเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่อหัว 15,000 บาท/คน
สำหรับมาตรการเรื่องการเก็บค่าเหยียบแผ่นดินนักท่องเที่ยว 300 บาทนั้น นายชำนาญ ยืนยันว่า ควรเก็บนักท่องเที่ยว เพื่อนำมาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาทักษะแรงงานท่องเที่ยว และสินค้าท่องเที่ยว
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ระดับ 68 ลดลงมากจากไตรมาสที่ผ่านมา และต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไตรมาสนี้เป็นช่วง Low Season ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อำนาจการซื้อของผู้บริโภคชาวไทยลดลง และเกิดสภาวะอุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศไทย พร้อมคาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไตรมาส 4/2567 จะอยู่ที่ 80 สูงขึ้นกว่าปีก่อน หลังมียอดจองล่วงหน้าในช่วง High Season และมีไฟล์ทบินเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี