นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.44 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อที่ระดับ 33.54 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคเคลบื่อนไหวแบบผสม เนื่องจากตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามา ระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.30 - 33.53 บาท/ดอลลาร์
"บาทเคลื่อนไหวในกรอบกว้าง ช่วงเที่ยงแข็งค่าหลุดกรอบที่ประเมินไว้ก่อนจะอ่อนค่ากลับขึ้นมา น่าจะมาจากแรงเทขาย ดอลลาร์จากผู้ส่งออกหลังบาทอ่อนค่า" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.35 - 33.55 บาท/ดอลลาร์
โดยคืนนี้ตลาดรอดูรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และรอดูรัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม เติมในวันเสาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 148.62 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 148.12 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0963 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0974 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,456.97 จุด เพิ่มขึ้น 4.17 จุด, +0.29% มูลค่าซื้อขาย 49,383.38 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,053.51 ล้านบาท
- สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ตั้งเป้ารายได้ในปี 68 ไว้ที่ 2.9-3.1 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเป็นการ
สร้างสถิติใหม่จากยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 38-40 ล้านคน
- นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (9 ต.ค.) และเตรียมจัดการเลือกตั้งในวันที่ 27 ต.ค. เพื่อ
ยืนยันถึงการเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและได้รับอาณัติจากประชาชนในการบริหารประเทศ หลังจากที่เขาเพิ่งก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งหัว
หน้ารัฐบาลได้เพียง 9 วัน
- อดีตกรรมการบริหารด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นจะไม่ขัดขวาง
BOJ ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเดือน ม.ค.ปีหน้าเป็นช่วงเวลาที่เป็นไปได้มากที่สุดสำหรับการปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยครั้งถัดไป
- รองประธานเฟด เผยการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมาเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมกับ
จังหวะเวลา ไม่ใช่การตอบสนองต่อสถานการณ์ หรือเป็นการป้องกันล่วงหน้าแต่อย่างใด
- จีนจะจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบายการคลังในวันเสาร์นี้ (12 ต.ค.) ในขณะที่นักลงทุนรอคอยการออกมาตรการกระตุ้น
เศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาลจีน