นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังไปร่วมกันศึกษา เพราะเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา และถือเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางของประชาชน ช่วยลดปริมาณการใช้รถยนต์ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยจะต้องไปศึกษาว่าจะต้องใช้วิธีการอย่างไรมีความคุ้มค่าทางการเงินอย่างไร และแหล่งเงินจะมาจากที่ใด โดยจะรีบดำเนินการโดยเร็ว
ขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงได้เริ่มดำเนินการเก็บค่าโดยสารในอัตรา 20 บาทตลอดสายมาแล้ว ซึ่งทั้ง 2 สายเป็นการดำเนินงานของรัฐบาลจึงสามารถทำได้ทันที ทำให้มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 50% ถือเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีต้องการจะให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกสาย ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาลหรือให้สัมปทานกับเอกชน
แนวทางดำเนินการกระทรวงการคลังจะไปศึกษาในเรื่องของการตั้งกองทุนเพื่อไปซื้อรถไฟฟ้าคืน ซึ่งเข้าใจว่ากระทรวงการคลังจะจ้างที่ปรึกษา เพื่อดูรายละเอียดทั้งหมด และแหล่งเงินเพิ่มเติมที่จะนำมาใช้ ในส่วนของกระทรวงคมนาคมตามที่เคยพูดไปแล้วว่าอยากให้ประชาชนใช้รถไฟฟ้าในราคา 20 บาทตลอดสายทุกสายได้ในเดือนกันยายน 2568 โดยขณะนี้ได้ศึกษาแหล่งเงินที่จะมาชดเชยในช่วงแรกแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากรายได้ของ รฟม.จากสายสีน้ำเงิน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที แต่หากกระบวนการศึกษาของทั้งสองกระทรวงเสร็จก่อนก็จะใช้กระบวนการนั้น
โดยการดำเนินการนั้นเบื้องต้นมีแนวคิดจัดตั้งกองทุน ซึ่งต้องหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยต้องศึกษาให้ดี เพราะต้องมีแหล่งเงินที่จะจัดเก็บรายได้และนำเงินไปซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืนมา แต่ทั้งนี้ก็ต้องออกเป็น พ.ร.บ.เพื่อไปดำเนินการ
ทั้งนี้ นายสุริยะ เชื่อว่า เรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น พรรคร่วมรัฐบาลก็เห็นด้วย เพราะเป็นประโยชน์กับประชาชน และถือว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงร่วมกัน