ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.50 แกว่งแคบไร้ปัจจัยใหม่ คาดกรอบวันเปิดทำการ 33.35-33.60

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 22, 2024 17:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 33.50 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับ ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.52 บาท/ดอลลาร์

โดยเงินบาทวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 33.46-33.56 บาท/ดอลลาร์ วันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ ส่งผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมากนัก ขณะที่คืนนี้ ก็ไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ช่วงนี้ ต้องติดตามถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ ตลอดจนสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก รวม ทั้งผลสำรวจคะแนนนิยมในตัวแคนดิเดทผู้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพฤหัสเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.35-33.60 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 150.88 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 150.60 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0814 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0818 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ 1,470.32 จุด ลดลง 18.42 จุด (-1.24%) มูลค่าซื้อขาย 57,044.51 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,701.28 ล้านบาท
  • รมว.คลัง โต้กรณีที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจแห่งหนึ่ง ระบุว่าไทยมีความเสี่ยงที่จะถูกลดเครดิตเรตติ้ง จากปัจจุบันที่
ระดับ BBB+ มุมมอง Stable Outlook โดยมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของการวิเคราะห์ ซึ่งความเสี่ยงของเครดิตเรตติ้งก็ขึ้นอยู่กับข้อ
สมมติฐานทางเศรษฐกิจ ขณะที่ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ยืนยันว่า ยังไม่มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ
ประเทศ อีกทั้งพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศมีความแข็งแกร่ง และมีเสถียรภาพ
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกลไกการส่งผ่าน
ต้นทุนทางการเงินที่ปรับผ่อนคลายลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มาสู่ตลาดสินเชื่อ โดยคาดว่า สัดส่วนสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อ
ธุรกิจที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก่อนสิ้นปี 67 จะอยู่ที่ประมาณ 40.9% ของสินเชื่อรวมทั้งระบบแบงก์ไทย ขณะ
ที่ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขาเดียวของธนาคารพาณิชย์ในรอบนี้ จะทำให้ภาระดอกเบี้ยของลูกหนี้รายย่อย และภาคธุรกิจปรับลด
ลงเกือบ 1,300 ล้านบาท
  • SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เชื่อว่าได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยว-ส่งออก โดยนักท่องเที่ยว
ต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 จากกลุ่มตลาดประเทศระยะไกล รวมถึงการท่องเที่ยวในประเทศ จะได้ปัจจัยบวกจากมาตรการ
กระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐที่จะออกมาเพิ่มเติม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ และเมืองน่าเที่ยว
  • SCB EIC มองว่า กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งภายในไตรมาส 1/2568 เพื่อผ่อนคลายภาวะการเงินเพิ่มเติม เนื่อง
จากประเมินว่าภาพรวมเศรษฐกิจและภาวะสินเชื่อชะลอตัวจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง สถานการณ์มีแนวโน้มน่ากังวลมากขึ้นในระยะข้างหน้า ขณะ
ที่ภาวะการเงินโลกจะผ่อนคลายลงอีกเอื้อต่อการลดดอกเบี้ยของไทย
  • ยูบีเอส อินเวสเมนท์ แบงก์ (UBS Investment Bank) ของสหรัฐฯ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีน
ในปีนี้เป็น 4.8% หลังจากที่เศรษฐกิจขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้ในไตรมาส 3/2567
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้อาจจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งที่ 0.5% ในไตรมาส 3/2567 หลังจากที่หดตัว
ลงเล็กน้อยในไตรมาส 2 โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะได้รับแรงหนุนจากการส่งออกที่ฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยชดเชยอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลง
อันเนื่องมาจากต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้น
  • เจ้าหน้าที่ระดับสูง 4 รายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยส่วนใหญ่

แนะนำให้ปรับลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ