เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนธนาคารพาณิชย์ให้ยังคงระดมทุนต่อไป เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อและเพื่อยับยั้งเศรษฐกิจสหรัฐไม่ให้ทรุดตัวลงไปมากกว่านี้
"กิจการของธนาคารพาณิชย์หลายแห่งกำลังชะลอตัวลงและมีเพียงไม่กี่แห่งที่ระดมทุนเพิ่มขึ้น ธนาคารพาณิชย์บางกลุ่มยังมีมุมมองแบบเดิมว่าการระดมทุนจะเป็นการเปิดเผยให้สาธารณชนรู้ว่าองค์กรกำลังขาดสภาพคล่อง ซึ่งผมคิดว่าขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่ธนาคารพาณิชย์จะลุกขึ้นเผชิญกับความจริงและมีความกล้าที่จะระดมทุนมากขึ้น" เบอร์นันเก้กล่าว
การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้สะท้อนให้เห็นว่า เขามีความกังวลในเรื่องนี้ โดยเบอร์นันเก้มองว่าการที่ตลาดการเงินจะกลับเข้าสู่ภาวะปกตินั้นจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ทำให้เฟดพิจารณาหาทางสนับสนุนธนาคารพาณิชย์ให้สามารถจัดการกับความเสี่ยง หลังจากระบบการธนาคารอ่อนแอลงเนื่องจากวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ
"ผมสนับสนุนให้สถาบันการเงินยังคงใช้นโยบายเชิงรุกเพื่อระดมทุน การดำเนินการเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะถดถอยเท่านั้น แต่จะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถเปิดรับโอกาสใหม่ๆในการระดมทุน เพื่อพยุงตลาดการเงินให้ฟื้นตัวขึ้น"
"ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ต้องสวมบทบาทแกนนำในการรับมือกับความเสี่ยง ธนาคารพาณิชย์ที่แข็งแกร่งที่สุดจะต้องไม่จำเป็นต้องพึ่งพาบริษัทจัดอันดับเครดิตเสมอไป แต่ควรตระหนักถึงอันตรายของการที่ธนาคารตนเองเป็นต้นเหตุแห่งการถดถอยของเศรษฐกิจมากกว่า" เบอร์นันเก้กล่าว
คณะกรรมการเฟดเปิดเผยในรายงานว่า ในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 14 พ.ค.ยอดการกู้ยืมโดยตรงของธนาคารพาณิชย์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.44 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเฟดสร้างแรงจูงใจให้ธนาคารพาณิชย์เข้าระดมทุนด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมและขยายระยะเวลาในการชำระเงินต้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นครั้งล่าสุดนี้ เบอร์นันเก้ไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 24-25 มิ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย มากกว่าที่จะปรับลดดอกเบี้ย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--