นักวิเคราะห์ชี้เหตุแผ่นดินไหวที่เสฉวนสร้างความเสียหายให้จีน $2 หมื่นล้าน

          เหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในมณฑลเสฉวนของจีนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2493 ชี้ให้เห็นว่า ธุรกิจประกันของจีนอยู่ล้าหลังธุรกิจประกันของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลกอย่างสหรัฐมาก
          เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการกำกับดูแลการประกันของจีน กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหว  มีเพียง 5% เท่านั้นที่ได้รับการประกัน ในทางตรงกันข้าม ข้อมูลที่นักวิเคราะห์ของเจอร์ซีย์ ซิตี้ได้รวบรวมมาชี้ว่า ความเสียหายประมาณครึ่งหนึ่งของมูลค่าความเสียหายที่เกิดจากพายุเฮอริเคนแคทริน่าจำนวน 1.20 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นพายุที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐนั้น ได้มีการประกันโดยบริษัทประกันหรือรัฐบาลแล้ว
          ฉาง หลิง ซึ่งดูแลสินทรัพย์มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ให้กับไอซีบีซี เครดิต สวิส แอสเส็ท เมเนจเมนท์ จากปักกิ่ง และถือหุ้นในกลุ่มผิงอัน อินชัวรันซ์ กล่าวว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ย้ำให้เห็นว่า ธุรกิจประกันยังมีโอกาสที่จะรุกตลาดชนบทของจีนอีกมาก และรัฐบาลเองก็ควรสนับสนุนในเรื่องนี้เช่นกัน หลังจากที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติขึ้นในปีนี้
          ข้อมูลของเคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนลชี้ว่า บริษัท ไชน่า ไลฟ์ อินชัวรันซ์ และผิง อัน ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ที่สุดของจีน ยังไม่ได้ขยายธุรกิจครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศจีน โดยมีชาวจีนเพียง 4% จากทั้งหมด 1.3 พันล้านคนที่ทำประกัน ในขณะที่ชาวอเมริกัน 77% ได้ประกันชีวิตประเภทใดประเภทหนึ่งเอาไว้
          เหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.9 ริคเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 2 หมื่นราย สร้างความเสียหายและทำลายบ้านเรือนในกว่า 44 เขตในมณฑลเสฉวน โดยมีผู้ที่ยังถูกฝังอยู่ในซากปรักหักพังอีกอย่างน้อย 30,000 ราย นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบโดยตรงกับประชาชน 10 ล้านคนที่อยู่นอกพื้นที่