IMF เชื่อวิกฤตในตลาดเงินทั่วโลกผ่านพ้นไปแล้ว เตือนราคาอาหารแพงฉุดรั้งศก.โลก

ข่าวต่างประเทศ Friday May 16, 2008 10:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          โดมินิก สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แสดงความคิดเห็นว่า วิกฤตการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลกได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่คาดว่าเศรษฐกิจโลกคงหลีกไม่พ้นที่จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ดังกล่าว
ผู้อำนวยการ IMF กล่าวว่า เขามีเหตุผลที่ดีพอที่จะเชื่อว่าวิกฤตการณ์รุนแรงได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่เตือนว่า ภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อยังคงมีอยู่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความเสียหายในธุรกิจการเงินและอาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง
"พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากเกิดภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้จะฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงต่อไป และนั่นหมายความว่าเศรษฐกิจโลกจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นก่อนปลายปีนี้ หรืออาจจะชะลอตัวลงต่อไปจนถึงช่วงกลางปีหน้า" สเตราส์-คาห์นกล่าวในที่ประชุมคณะกรรมาธิการยุโรป
"เศรษฐกิจในประเทศยักษ์ใหญ่หลายประเทศชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2-3 เดือนที่แล้ว ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐนั้นผมคาดว่าจะฟื้นตัวได้ก็ต่อเมื่อตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งภาวะตกต่ำในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐมีรากปัญหามาจากราคาบ้านที่ร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งผมคาดว่าปัญหาดังกล่าวยังคงรุมเร้าสหรัฐต่อไปอีกระยะหนึ่ง" ผู้อำนวยการ IMF กล่าว
ทั้งนี้ สเตราส์-คาห์นกล่าวว่า "แม้ IMF มองว่าวิกฤตการณ์รุนแรงในตลาดการเงินผ่านพ้นไปแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่ต้องจับตาดูก็คือ ผลพวงของวิกฤตการณ์ดังกล่าวกำลังอยู่เบื้องหน้าเราในเวลานี้ อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อมั่นว่ากลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่จะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินทั่วโลก"
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการ IMF กล่าวว่า ราคาอาหารที่พุ่งขึ้นทั่วโลกจนเป็นเหตุให้เกิดการจลาจลเพื่อแย่งชิงอาหารและทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อไปทั่วโลกนั้น เป็นหนึ่งในสาเหตุที่จะฉุดรั้งเศรษฐกิจโลก เนื่องจากนักลงทุนจะปลีกตัวออกจากตลาดปริวรรตเงินตราเพราะสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และหันไปทุ่มลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อย่างร้อนแรง สำนักข่าวเอพีรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ