ซู หนิง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนไม่มีแนวโน้มว่าจะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อพุ่งทะยาน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนยังต้องจับตาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในประเทศอย่างใกล้ชิด โดยปัจจัยต่างๆที่มีผลทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะยังคงส่งผลกระทบให้เงินดอลลาร์อ่อนตัวลง และความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่บางประเทศลดลงด้วยเช่นกัน
ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนในเดือนเม.ย. 2551 ขยายตัว 8.5% และขยายตัว 8.2% ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2551 ในขณะที่ CPI ปี 2550 ขยายตัวขึ้นเพียง 4.8%
รองผู้ว่าธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จีนยังคงมีความสามารถที่จะจัดการกับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นได้ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวอย่างสดใสในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งสถานการณ์ทางการเงินที่เป็นบวก และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเอกชนที่ดีขึ้น โดยนโยบายเศรษฐกิจมหภาคของจีนนั้นมีจุดยืนที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
ซูกล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่ธนาคารกลางจีนจะต้องรักษาเสถียรภาพและทำให้นโยบายการเงินมีความต่อเนื่อง และภารกิจสำคัญด้านนโยบายการเงินก็คือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ
เมื่อต้นสัปดาห์ ธนาคารกลางจีนประกาศว่า จะขึ้นเพดานสำรองสภาพคล่องธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% เพื่อควบคุมภสพาคล่องที่สูงเกินไปและบรรเทาภาวะเงินเฟ้อ สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--