ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนต.ค.67 อยู่ที่ 47.0 ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 45.7 ในเดือนก.ย.67 ชี้ถึงธุรกิจที่ความเชื่อมั่นดีขึ้นเริ่มมีสัดส่วนมากขึ้นบ้างแล้ว โดยดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิต เพิ่มขึ้นในเกือบทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีความเชื่อมั่นด้านการผลิตและคำสั่งซื้อปรับเพิ่มขึ้นมาก จากการส่งออกเครื่องซักผ้าที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ตามอุปสงค์คู่ค้า ประกอบกับผลดีจากประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ธุรกิจบางส่วนได้รับคำสั่งซื้อทดแทนจีน
เช่นเดียวกับกลุ่มผลิตเหล็ก ที่ดัชนีฯ ด้านคำสั่งซื้อปรับเพิ่มขึ้นมาก ตามงานโครงการภาครัฐที่ทยอยเบิกจ่ายได้ต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิตปรับเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มการค้าปลีกที่ความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการ คำสั่งซื้อ และปริมาณการค้าปรับเพิ่มขึ้นมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลดีจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ที่สนับสนุนยอดขายสินค้าที่ไม่คงทน, สินค้าที่จำหน่ายเร็วและมีต้นทุนต่ำ (Fast-moving consumer goods : FMCG) โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด
โดยในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 52.4 จากความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการและคำสั่งซื้อเป็นสำคัญ ด้านดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิตทรงตัว และอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ต่อเนื่อง โดยความเชื่อมั่นของกลุ่มผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ลดลงในเกือบทุกด้าน ตามการส่งออกสินค้า Integrated Circuit ที่หดตัว ขณะที่ความเชื่อมั่นของกลุ่มผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนทรงตัวในระดับต่ำ จากยอดขายในประเทศที่หดตัวเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นของธุรกิจการผลิตอื่นปรับดีขึ้น นำโดยกลุ่มผลิตยางพารา เนื่องจากอุปสงค์ของถุงมือยางในตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวจากสต็อกของคู่ค้าที่ทยอยลดลง สำหรับความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิตเพิ่มขึ้นในเกือบทุกธุรกิจ นำโดยกลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร รวมทั้งกลุ่มการค้าปลีก จากความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการ และการให้บริการที่เพิ่มขึ้นตามการท่องเที่ยว และการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่