ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.90 อ่อนค่านำภูมิภาค คาดต้นสัปดาห์หน้าแกว่งในกรอบ 33.80-34.10

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 1, 2024 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.90 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าต่อเนื่องจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 33.82 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.78 - 33.92 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ต่างชาติขายพันธบัตร 2,893 ล้านบาท

"วันนี้บาทอ่อนค่านำตลาดในภูมิภาค ตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลกที่ร่วงลงมาเมื่อคืนนี้ โดยสัปดาห์หน้ามีโอกาสอ่อนค่า ขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 34.00 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากยังความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ต่าง ๆ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 33.80 - 34.10 บาท/ดอลลาร์

ตลาดรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ต.ค.จากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ในช่วงค่ำวันนี้

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 152.72 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 152.10 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0860 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0881 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,464.17 จุด ลดลง 1.87 จุด, -0.13% มูลค่าซื้อขายราว 32,853.63 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,484.26 ล้านบาท
  • กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets: SCB FM) ระบุว่า หากนายโดนัลด์ ทรัมป์
ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตามที่คาด จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บาทอ่อนค่าเร็วอีกได้ โดยอาจเห็นบาทอ่อนค่าไปใกล้ระดับ 35
บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และ US yields อาจสูงขึ้นได้อีก
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนต.ค.67 อยู่ที่ 47.0 ปรับเพิ่มขึ้น
จากระดับ 45.7 ในเดือนก.ย.67 ชี้ถึงธุรกิจที่ความเชื่อมั่นดีขึ้นเริ่มมีสัดส่วนมากขึ้นบ้างแล้ว โดยดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิต เพิ่มขึ้น
ในเกือบทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีความเชื่อมั่นด้านการผลิตและคำสั่งซื้อปรับเพิ่มขึ้นมาก จากการส่งออกเครื่อง
ซักผ้าที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ตามอุปสงค์คู่ค้า ประกอบกับผลดีจากประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ธุรกิจบางส่วนได้รับคำสั่งซื้อทดแทนจีน
  • คลังถกสมาคมธนาคารไทย หาแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน แนวทางเบื้องต้น จะเสนอให้พักดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี
และจะให้ผ่อนเฉพาะเงินต้น โดยให้จ่ายเพียงครึ่งเดียว รวมถึงจะมีการขยายเวลาการผ่อนชำระให้นานขึ้น ซึ่งมองว่าถ้าข้อสรุปออกมาได้
ตามนี้ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี แต่ลูกหนี้กลุ่มนี้จะต้องเข้าไปอยู่ในเครดิตบูโร ส่วนจะสามารถเข้าถึงสินเชื่อใหม่ได้หรือใหม่นั้น ต้องให้เป็นหน้าที่
ของสถาบันการเงินในการพิจารณาว่าจะปล่อยสินเชื่อให้หรือไม่ โดยต้องไปพิจารณาเรื่องความสามารถในการจ่ายชำระหนี้ และราย
ละเอียดอื่น ๆ ประกอบ
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ระบุว่า ประเทศสมาชิก
อาเซียนยังคงเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนกับสหรัฐฯ แม้จะยังคงมีความเสี่ยงจากการ
แตกแยกทางการค้าอยู่ก็ตาม
  • รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยในวันนี้ (1 พ.ย.) ว่า จีนจะเปิดตัวกิจกรรมส่งเสริมการบริโภคชุดใหม่
ใน 5 มณฑลใหญ่ในเดือนพ.ย. และนโยบายใหม่ที่มุ่งส่งเสริมการใช้จ่ายของผู้บริโภค

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ