นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า กกร. จับตาผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งนัยต่อเศรษฐกิจไทยเบื้องต้น ถือเป็นความเสี่ยงต่อสินค้าไทยที่มีการเกินดุลกับสหรัฐฯ คาดว่าจะกระทบการส่งออกไทยผ่านมาตรการขึ้นภาษีการนำเข้าและการกีดกันทางการค้ารอบใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่เกินดุลการค้าสูงและมูลค่าการส่งออกขยายตัวได้ดี เช่น ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ เซมิคอนดักเตอร์ ยางล้อ และกลุ่มสินค้าที่เกินดุลการค้าปานกลางและมูลค่าการส่งออกที่ขยายตัวรวดเร็ว เช่น เครื่องปรับอากาศ โซลาร์เซลล์ เป็นต้น
โดยจำเป็นจะต้องติดตามความคืบหน้าของนโยบายเหล่านี้ต่อไป โดยภาครัฐและผู้ประกอบการต้องเตรียมหาแนวทางร่วมกันในการรับมือกับนโยบายที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง
นายสนั่น กล่าวว่า ปัจจุบันเหมือนว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีคะแนนนำนางคามาลา แฮร์ริส ซึ่งถ้าทรัมป์ ชนะ นโยบายของทรัมป์จะไม่สนใจประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรื่องการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และจะชูนโยบาย American First ดังนั้น ประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ จะเป็นที่เพ่งเล็ง ซึ่งไทยอยู่ในส่วนนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับไทย เนื่องจากทรัมป์เคยเป็นประธานาธิบดีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาไทยก็สามารถจัดการและปรับตัวได้
ส่วนถ้ากรณีที่แฮร์ริส ชนะการเลือกตั้ง คงจะเน้นเรื่อง กติกาโลก กติกากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF), องค์การการค้าโลก (WTO), ธนาคารโลก (World Bank), สิทธิมนุษยชน และสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งผิดกับนโยบายของทรัมป์ ที่ถ้าเป็นประเด็นด้านเศรษฐกิจจะพูดตรงไปตรงมา ซึ่งถ้าขึ้นภาษีการนำเข้าจริงมองว่าน่าจะขึ้นเหมือนกันหมดทั่วโลก ซึ่งไทยก็ไม่ได้มีข้อเสียเปรียบมาก ที่เสียเปรียบมากคือประเทศจีน โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า
"เอกชนได้มีการพูดคุยกับรัฐบาลไทย และสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ว่า ยินดีและขอบคุณที่ผู้ประกอบการจีนมาลงทุนในไทย เช่น โซลาร์เซลล์ รถยนต์ไฟฟ้า ยางล้อรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ อย่างไรก็ดี ไทยจำเป็นต้องทำให้สหรัฐฯ ไม่ได้รู้สึกว่า การที่จีนย้ายฐานการผลิตมาในไทย สินค้าที่ส่งออกไปจะยังคงเป็นสินค้าจีน เนื่องจากไทยเองอาจโดนภาษีเหมือนที่จีนโดนได้ และอาจทำให้ไทยไม่สามารถส่งออกไปสหรัฐฯ หรือส่งออกได้น้อยลงได้ ส่วนประเด็นเรื่องการกีดกันทางการค้า มองว่าไทยไม่ได้รับผลกระทบมาก เพราะถ้าขึ้นภาษีทุกประเทศก็ขึ้นเหมือนกัน" นายสนั่น กล่าว