นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.16 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.70 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าตามค่าเงินภูมิภาคและทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า เมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลักหลังผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสชนะ และพรรครีพับลิกันจะได้ เสียงข้างมากในสภาสูง ซึ่งตลาดกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการออกมาตรการกีดกันทางการค้าที่อาจทำได้ง่ายขึ้น ระหว่างวันเงินบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 33.54 - 34.17 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้บาทผันผวนในทิศทางอ่อนค่าเกาะกลุ่มกับภูมิภาค ระหว่างวันลงไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน พรุ่งนี้ยังมีแนว โน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.00 - 34.30 บาท/ดอลลาร์
คืนนี้ยังมีไม่การประกาศข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ส่วนผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะออกมาในช่วงค่ำวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25%
- ปัจจัยสำคัญ
- เยนอยู่ที่ 153.94 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 152.46 เยน/ดอลลาร์
- ยูโรอยู่ที่ 1.0753 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้านี้ที่ระดับ 1.0864 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,467.42 จุด ลดลง 14.25 จุด, -0.96% มูลค่าซื้อขายราว 57,315.85 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,746.71 ล้านบาท
- กกร.ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวได้ที่ 2.6-2.8% สูงกว่าประมาณการเดิม หลังได้แรงขับเคลื่อน
- กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน ต.ค.67 อยู่ที่ 108.61 หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น
- ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเฟส
- ราคาคริปโทเคอร์เรนซีปรับตัวขึ้นคึกคักในช่วงเช้าวันนี้ โดยเฉพาะบิตคอยน์พุ่งแรงสุดในรอบสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนรอลุ้นผล
- บรรดานักวิเคราะห์ต่างแสดงความเห็นว่า หุ้นจีนและค่าเงินดอลลาร์ รวมถึงเงินเยนญี่ปุ่นและเงินวอนเกาหลีใต้ เป็น
- โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีประกาศชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 หลังผลนับคะแนนเบื้องต้นบ่งชี้ว่าผู้สมัคร
- พรรครีพับลิกันได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสภาที่รัฐเวสต์เวอร์จิเนียและโอไฮโอในวันอังคาร (5 พ.ย.) ส่งผลให้พรรค
ของโดนัลด์ ทรัมป์ มั่นใจได้ว่าจะได้ควบคุมสภาคองเกรสอย่างน้อยหนึ่งสภาในปีหน้า