รัฐบาลอินเดียเปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของอินเดียพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่งที่ 7.83% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะขยายตัว 7.55% ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะกดดันธนาคารกลางอินเดียให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ไบมาล จาลัน อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียกล่าวว่า ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นจะช่วยสกัดเม็ดเงินเก็งกำไรในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และควบคุมราคาอาหารให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียได้เชิญชวนกลุ่มธุรกิจเหล็กและซีเมนต์ให้ราคา เพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อให้ต่ำลง
"เราคาดว่าธนาคารกลางอินเดียจะใช้มาตรการคุมเข้มทางการเงิน ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคาดว่าจะมีการใช้มาตรการทางการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นในอนาคตเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศอยู่เหนือระดับเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 5.5%" ราจีฟ มาลิก นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ในสิงคโปร์ กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า ดัชนีชี้วัดราคาอาหารจำพวกผักผลไม้และอาหารประเภทอื่นๆ พุ่งขึ้น 0.5% ขณะที่ดัชนีผลิตภัณฑ์ด้านการผลิตเพิ่มขึ้น 0.3%
หลังจากที่อินเดียเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อในวันนี้ ค่าเงินรูปีร่วงลงแตะระดับ 42.73 ดอลลาร์/รูปี จากระดับก่อนเปิดเผยเงินเฟ้อที่ 42.65 ดอลลาร์/รูปี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--