นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการสินเชื่อซื้อ-ซ่อม- สร้าง ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชน ส่งเสริม และสร้างโอกาสให้กับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางได้เข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย ภายใต้เงื่อนไขที่ผ่อนปรน เหมาะกับศักยภาพการผ่อนชำระหนี้ รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างวินัยทางการเงินของประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดภาระทางการเงินในอนาคต
มาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย
1. มาตรการสินเชื่อ ซื้อ-สร้าง (วงเงิน 50,000 ล้านบาท)
- มาตรการสินเชื่อที่สนับสนุนให้ประชาชน มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท/ราย
- ระยะเวลาการกู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี
- อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1-5 คงที่ 3% ต่อปี ปีที่ 6-7 MRR -2% ต่อปี ปีที่ 8-9 MRR -1.5% ต่อปี ปีที่ 10 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้เงิน แบ่งเป็น กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ย MRR -0.75% ต่อปี, กรณีลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย MRR -1% ต่อปี, กรณีลูกค้าซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ย MRR
- ระยะเวลาโครงการถึงวันที่ 30 ธ.ค. 68
- ธอส. ขอรับการชดเชยส่วนต่างระหว่างรายได้ดอกเบี้ยรับตามแผนวิสาหกิจของธนาคาร กับรายได้ดอกเบี้ยรับจากมาตรการสินเชื่อซื้อ-สร้าง จำนวน 5,959.97 ล้านบาท
- ธอส. ขอแยกบัญชีมาตรการสินเชื่อซื้อ-สร้าง เป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA)
2. มาตรการสินเชื่อซ่อม-แต่ง (วงเงิน 5,000 ล้านบาท)
- มาตรการสนับสนุนลูกค้าเดิมของ ธอส.ที่มีวินัยการผ่อนชำระหนี้ สามารถกู้เพิ่มเพื่อต่อเติมหรือซ่อมแซมอาคาร หรือเพื่อซื้ออุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย
- เป็นลูกหนี้เดิมที่ผ่อนชำระหนี้มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี และมีประวัติการผ่อนชำระดี
- วงเงินสินเชื่อไม่เกินรายละ 100,000 บาท
- ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1%
- ธอส. ขอรับการชดเชยส่วนต่างระหว่างรายได้ดอกเบี้ยรับตามแผนวิสาหกิจของธนาคาร กับรายได้ดอกเบี้ยรับจากมาตรการสินเชื่อซ่อม-แต่ง จำนวน 412.91 ล้านบาท
- ธอส. ขอแยกบัญชีมาตรการสินเชื่อซ่อม-แต่ง เป็นบัญชี PSA