ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.75 อ่อนค่ารับดอลลาร์พลิกแข็งค่า จับตาสงครามรัสเซีย-ยูเครน,ราคาทอง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 22, 2024 09:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.75 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากปิดวันก่อนที่ระดับ 34.66 บาท/ดอลลาร์ หลังเงินดอลลาร์พลิกกลับมา แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทนั้น มองว่า การแข็งค่าขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์ในคืนที่ผ่านมา อาจกดดันให้เงินบาทสามารถอ่อนค่า ลงทดสอบโซนแนวต้าน 34.70-34.80 บาท/ดอลลาร์ได้ แต่เงินบาทอาจไม่อ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านดังกล่าวไปได้ไกล ตราบใดที่ราคา ทองคำยังสามารถปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับเริ่มเห็นการทยอยกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยของบรรดานักลงทุนต่างชาติเพิ่มเติม ซึ่งอาจช่วยชะลอ การอ่อนค่าของเงินบาทได้เช่นกัน

วันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคการบริการ (PMI) เดือนพ.ย.ของบรรดา ประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยรายงานดังกล่าว อาจมีผลต่อการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงิน ของบรรดาธนาคารกลางหลักได้ นอกจากนี้ ตัองติดตามสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงร้อนแรงอยู่ในช่วงนี้

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 34.50-34.85 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 34.7650 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 154.20 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 154.40 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0468 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0517 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 34.649 บาท/ดอลลาร์
  • "ไทยบีเอ็มเอ" จับตา "บจ.กลาง-อสังหาฯ" ที่มีปัญหา ในตลาดหุ้นไทยช่วง 1-2 ปี หลังฐานะการเงิน เสื่อมถอยเร็ว-
ธรรมาภิบาลบริษัทส่อแย่ รับกระทบบรรยากาศ "ตลาดหุ้นกู้ไม่สดใส - หุ้นกู้ไฮยีลด์ยังไม่กลับมา" ประสาน "ตลท.-ก.ล.ต." เปิดเผย
ข้อมูลให้นักลงทุนตัดสินใจได้เร็ว พร้อมวางโครงสร้างปั้น "ตลาดบอนด์" เป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาค
  • Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ยังต้องเผชิญความไม่แน่
นอน ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงด้านต่ำต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจระยะข้างหน้า โดยเฉพาะสงครามการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นชัดเจน จาก
การประกาศขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯตามนโยบายของว่าที่ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในเดือนมกราคม 2568
โดยจากรายงาน Word Economic Outlook (WEO) ฉบับเดือนตุลาคม 2567 ของกองทุน การเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมิน
ว่าความไม่แน่นอนจากการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าที่ยกระดับ นอกจากจะเป็นอุปสรรคต่อการค้าระหว่างประเทศแล้ว ยังจะส่งผลให้
อัตราเงินเฟ้อกลับมาเร่งตัว และสร้างความผันผวนต่อตลาดการเงิน ซึ่งต่างเป็นปัจจัยลบที่กดดัน จีดีพีของประเทศต่างๆ รวมถึงสหรัฐฯ
  • รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (22 พ.ย.) บ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ของญี่ปุ่นในเดือนต.ค.
เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 213,000 รายใน
สัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 220,000 ราย
  • บิทคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุ 98,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่า 3.39 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ครั้งใหม่ ทั้งนี้ บิทคอยน์พุ่งขึ้นเกือบ 30% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่การคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโด
นัลด์ ทรัมป์ รวมทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเพิ่มสภาพคล่องในตลาด
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (21 พ.
ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยยอดขายบ้านมือสองที่สูงกว่าคาด และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
และทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเดิน
หน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งการเปิดเผยรายได้ของ
บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ที่ชะลอตัวในไตรมาส 3
  • นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทาง
อัตราดอกเบี้ยก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนธ.ค.
  • นักลงทุนพากันลดน้ำหนักการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธ.ค.
ขณะที่เพิ่มน้ำหนักการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว ส่งผลให้ล่าสุดนักลงทุนให้น้ำหนักการคาดการณ์การปรับลด
อัตราดอกเบี้ยและคงอัตราดอกเบี้ยเข้าใกล้ 50/50
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นและภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย.จาก
S&P Global และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • ตลาดจับตาสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า รัสเซียพร้อมพิจารณาข้อเสนอ

สันติภาพที่เป็นไปได้จริง เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน ขณะที่มีรายงานระบุว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) จากแคว้นอัส

ตราคันทางตอนใต้ของรัสเซียเพื่อโจมตียูเครน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีอานุภาพร้ายแรงดังกล่าวในการทำสงคราม

กับยูเครน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ