นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 34.60/61 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อน ค่าจากเปิดเมื่อเช้าที่ระดับ 34.41/43 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.39 - 34.64 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอ่อนค่าจากช่วงเช้า จากการร่วงลงของราคาทองคำเป็นหลัก โดยวันนี้ยัง ไม่มีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
"ช่วงเช้า ราคาทองสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 2,720 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีแรงเทขายลงมาต่ำสุดอยู่ที่ 2,659 ดอลลาร์/ออนซ์ ภายในวันเดียว เงินบาทเลยทยอยอ่อนค่า ตอนที่ทองคำทยอยร่วงลง" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.45 - 34.75 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ 154.43/47 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 153.70/75 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ 1.0488/0490 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0480/0484 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,443.31 จุด ลดลง 2.99 จุด (-0.21%) มูลค่าการซื้อขาย 50,418.01 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,098.25 ลบ.(SET+MAI)
- สภาพัฒน์ เผยหนี้ครัวเรือนไตรมาส 2/67 ขยายตัวชะลอลง จากการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้น ด้าน
- SCB EIC ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 67 เป็น 2.7% (เดิม 2.5%) จากผลมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท
- ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ภาพรวมค้าปลีกปี 67 ยังไม่สดใสเท่าที่ควร จากปัจจัยที่มีผลกระทบต่อภาคครัวเรือน
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.10-
- โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางในเอเชียจะใช้ความระมัดระวังในการผ่อนคลาย
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ของจีนที่ระดับ 2% ในวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก หลังจากที่ปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ยดังกล่าวลงในเดือนก.ย. ขณะที่ทางการจีนยังคงใช้ความระมัดระวังในการเพิ่มมาตรการกระตุ้นด้านการเงิน