นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.75 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจาก เปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 34.74 บาท/ดอลลาร์
โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 34.66-34.78 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่า สอดคล้องกับ สกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค หลังจาก "โดนัล ทรัมป์" ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ประกาศว่าจะเดินหน้าตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากจีน เพิ่มอีก เมื่อเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค.68
ส่วนการรายงานยอดส่งออกของไทยเดือนต.ค.67 แม้จะมีการขยายตัวสูงถึง 14.6% และมูลค่าถึง 27,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 19 เดือน แต่ก็ไม่มีผลต่อทิศทางของเงินบาทเท่าใดนัก
"เงินบาทเคลื่อนไหวในโซนอ่อนค่า ตามทิศทางภูมิภาค หลังทรัมป์ประกาศตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากจีน ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับ ตำแหน่ง" นักบริหารเงิน ระบุ
คืนนี้ ตลาดรอติดตามการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จาก Conference Board ของสหรัฐฯ รวมทั้ง รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC)
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.60 - 34.85 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 153.99 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 153.95 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0506 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0448 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,438.25 จุด ลดลง 5.06 จุด (-0.35%) มูลค่าการซื้อขาย 37,226.32 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 9.56 ลบ.
- พาณิชย์ เผยส่งออก ต.ค.67 โตพุ่ง 14.6% มูลค่ากว่า 27,000 ล้านดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 19 เดือน โดยมีปัจจัยหนุน
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/2567 สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ ลดลง 2% เมื่อเทียบ
- ธปท. เผย ส่วนหนี้ครัวเรือนไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 89.6% ต่อ GDP ปรับลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน ซึ่งอยู่ที่
- ก.ท่องเที่ยวและกีฬา เผย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-24 พ.ย. 67 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยทั้งสิ้น
- รัฐบาลญี่ปุ่นคงคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังฟื้นตัวในระดับปานกลาง พร้อมเตือนเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดต่าง ๆ จะยังคงเผชิญกับแรงกดดัน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มประเมินโพสิชันการลงทุนอีก
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานคืนนี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จาก Conference
Board, คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 6-7 พ.ย., ยอดขาย
บ้านใหม่เดือนต.ค. เป็นต้น