ภาวะตลาดเงินบาท: เย็นนี้ 34.50 วอลุ่มเบาบาง ไร้ปัจจัยใหม่ ตลาดสหรัฐหยุดทำการ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 28, 2024 16:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 34.50 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 34.55 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.38-34.59 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นบ้าง หลังจากที่ดอลลาร์ สหรัฐอ่อนค่า วันนี้ยังไม่มีปัจจัยเด่นที่จะมีผลต่อทิศทางของค่าเงินบาทได้มากนัก โดยทิศทางของเงินบาทวันนี้ เป็นไปตาม flow ในช่วงสิ้น เดือน

"ระหว่างวันไม่ได้มีปัจจัยอะไรมาก เคลื่อนไหวไปตามทิศทางของ flow จากผู้ส่งออกในช่วงสิ้นเดือน" นักบริหารเงิน ระบุ

ส่วนคืนนี้ ธุรกรรมก็น่าจะเบาบาง เพราะตลาดเงินฝั่งสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ซึ่ง หากมีธุรกรรมใหญ่ ๆ เข้ามา ก็อาจจะส่งผลให้ค่าเงินผันผวนได้

นักบริหารเงิน คาดว่าพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.35 - 34.60 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 34.4761 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 151.90 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 151.48 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0544 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0558 ดอลลาร์/ยูโร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนต.ค.67 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการ
ส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในระดับสูง ภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง และการบริโภคภาคเอกชนที่ได้อานิสงส์จากโครงการกระตุ้น
เศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ อย่างไรก็ดี การบริโภคในหมวดสินค้าคงทนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ พร้อมจับตา
สถานการณ์เศรษฐกิจทั้งใน-นอกประเทศ ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทย
ในปี 2568 ไว้ที่ 3% โดยมีปัจจัยหนุนที่สำคัญจากการใช้จ่ายภาครัฐ การขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน การส่งออก และการท่องเที่ยว
ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย คงประมาณการ GDP ปีนี้ไว้เท่าเดิมที่ 2.6% โดยภาคบริการหรือภาค
การท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 35-36 ล้านคน ส่วนการส่งออก มีแนว
โน้มขยายตัวได้ 4.6% ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไป อยู่ในระดับต่ำที่ 0.5% สะท้อนถึงกำลังซื้อที่ยังไม่เข้มแข็งมากนัก อย่างไรก็ดี คาดว่า
GDP ไตรมาส 4/67 จะเร่งตัวขึ้นเป็น 3.6%
  • KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทร ระบุว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเจอปัจจัยเสี่ยงทั้งจากภายในและภายนอก หากไม่ปรับ
ตัวมีความเสี่ยงเข้าสู่แนวโน้มขาลง โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทย ในปี 2568 จะโตเพียง 2.6% จากเดิมคาด 3.0% โดยเติบโตช้าลง
จากปี 2567 และมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องเหลือ 2.4% ในปี 2569
  • รัฐบาลญี่ปุ่น กำลังพิจารณาออกพันธบัตรรัฐบาลชุดใหม่มูลค่า 6.7 ล้านล้านเยน (ประมาณ 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
เพื่อใช้เป็นงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) สำหรับทั้งปี 2567 และ 2568
หลังจากที่ได้ดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งติดต่อกัน โดยคาดว่า GDP จะขยายตัว 2.2% ในปี 2567 ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาด
การณ์ในครั้งก่อนหน้า สำหรับปี 2568 นั้น BOK ได้ปรับลดตัวเลข GDP ลงสู่ระดับ 1.9%
  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 3% ในวันนี้ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่
สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด หลังจากที่เพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เช่นกันในการประชุมครั้งก่อนเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
  • China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้แข็งค่าขึ้น

0.0088 หยวน แตะที่ 7.1894 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้

ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ