นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 34.24 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 34.41 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.21 - 34.42 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวไปในทิศทางแข็งค่า โดยระหว่างวันยังไม่มีปัจจัยใหม่ มองว่าเป็น Flow ฝั่งส่งออก ช่วงสิ้นเดือน ประกอบกับวันนี้ต่างชาติเข้าซื้อพันธบัตรไทยสุทธิเกือบ 3,000 ล้านบาท
นักบริหารเงิน คาดว่า วันจันทร์เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.15 - 34.40 บาท/ดอลลาร์
โดยตลาดรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า เช่น ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย. จากสถาบันจัดการด้าน อุปทานของสหรัฐ (ISM) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 34.2173 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 150.06 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 150.12 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0576 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0569 ดอลลาร์/ยูโร
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนต.ค. 67 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน จากรายรับ
ภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับการบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้น ส่วนหนึ่งได้รับผลดีจากมาตรการเงินโอน 10,000 บาท
สอดคล้องกับกิจกรรมในภาคการค้าที่เพิ่มขึ้น ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรม ปรับเพิ่มขึ้นตามการส่งออกที่ไม่รวมรถยนต์ และอุปสงค์ใน
ประเทศที่ปรับดีขึ้น
- วิจัยกรุงศรี มองว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี 67 โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากการ
เพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายภาครัฐ การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่าง ๆ วิจัยกรุงศรี จึงปรับเพิ่มประมาณการอัตราการเติบโตของ GDP
ในปี 67 เป็น 2.7% จากเดิมที่คาดไว้ 2.4% สำหรับปี 68 คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตในอัตรา 2.9% เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้า
- เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น
(BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินครั้งหน้า โดย ณ ช่วงเวลาหนึ่ง เงินเยนแข็งค่าขึ้นเกือบ 2 เยนจากวันก่อน
มาอยู่ที่ระดับเหนือ 150 เยนเล็กน้อย ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนต.ค. หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคใน
โตเกียวประจำเดือนพ.ย. ที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด
- คณะกรรมการภาษีศุลกากรแห่งคณะรัฐมนตรีจีนประกาศในวันนี้ (29 พ.ย.) ว่า จีนจะยังคงยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าบาง
รายการจากสหรัฐฯ ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายนปีนี้
- นักลงทุนรอดูข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซน ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางการลงทุนต่อไป