ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.34 แกว่งแคบจากช่วงเช้า รอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง จับตาถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 4, 2024 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 34.34 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก น้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.36 บาท/ดอลลาร์

โดยระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.23-34.41 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทแข็งค่าตามการฟื้นตัวของราคาทองคำ ในตลาดโลก นอกนั้นยังไม่มีปัจจัยชี้นำที่สำคัญ

"พอราคาทองเด้งขึ้น เงินบาทก็แข็งค่า ซึ่งเงินบาทแข็งค่าตามการฟื้นตัวของราคาทองในตลาดโลก วันนี้ยังไม่มีปัจจัยชี้นำ ใหม่ ๆ" นักบริหารเงิน ระบุ

ส่วนคืนนี้ ตลาดรอการรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย. และดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย. รวมทั้งรอฟังถ้อย แถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเป็นรอบสุดท้ายของปีนี้ ก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในช่วงวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ เพื่อหาสัญญาณทิศทางการปรับดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งติดตามสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศส ซึ่งจะ มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

นักบริหารเงิน คาดว่า วันศุกร์เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.20 - 34.50 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 150.58 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 150.02 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0505 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0501 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,450.82 จุด ลดลง 3.94 จุด (-0.27%) มูลค่าซื้อขาย 37,977.55 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 775.73 ล้านบาท
  • กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน พ.ย.67 อยู่ที่ 108.47 หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป
สูงขึ้น 0.95% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน จากตลาดคาด 0.9 - 1.2% โดยมีปัจจัยหลักจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล ที่เป็นผลจาก
ฐานราคาต่ำในปีก่อน รวมถึงราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้น
  • กระทรวงพาณิชย์ ประเมินแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ธ.ค.67 จะเพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย. โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 1.2-
1.3% ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 0.4-0.5% ขณะที่ในปี 68 คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไป จะอยู่ในช่วง 0.3-1.3%
  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 67 จะขยายตัวได้ 2.8% โดยมีปัจจัย
สนับสนุนจากการส่งออกที่ดีกว่าที่คาด โดยคาดว่าทั้งปีจะโตได้ 4%, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาค
รัฐ ขณะที่ปี 68 ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังมีโอกาสขยายตัวได้ท่ามกลางความไม่แน่นอน
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 68 คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.4% ชะลอลงจากปีนี้ ที่คาดว่าจะขยายตัวได้
2.6% เนื่องจากสงครามการค้าที่เป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก จากความไม่แน่นอนของนโยบายทรัมป์ 2.0 ซึ่งมีผลกระทบทั้งทางตรง-ทางอ้อม กับ
ประเทศไทยที่ยังมีความเปราะบางจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ปี 2568 จะยังเห็นสถานการณ์แนวโน้มสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเติบโตช้า และ
ต่ำ โดยมีอัตราการขยายตัวราว 0.2% จากปี 2567 ที่คาดว่าจะหดตัว 0.6% ท่ามกลางปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ที่ยังจะกดดันให้สินเชื่อราย
ย่อย ยังหดตัวต่อเนื่อง
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) กล่าวว่า ธนาคารกลางไม่น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์
ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในเวลาสั้น ๆ
  • โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงว่า จีนจะยังคงขยายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกในกลุ่มบริกส์ (BRICS)
ต่อไป แม้ว่า "โดนัลด์ ทรัมป์" ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะขู่ขึ้นภาษีนำเข้าก็ตาม
  • นักลงทุนรอรัฐสภาฝรั่งเศสลงคะแนนญัตติไม่ไว้วางใจต่อนายกรัฐมนตรีมิเชล บาร์นิเยร์ ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันนี้
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย., ดัชนี

ภาคบริการเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book)

จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. และดัชนีความ

เชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ