ภาวะตลาดเงินบาท: ระหว่างวันแข็งค่าหลุด 34 ก่อนกลับมาปิด 34.08 ให้กรอบต้นสัปดาห์หน้า 33.90-34.20

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 6, 2024 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.08 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจาก ช่วงเช้า ที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.09 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.95-34.20 บาท/ดอลลาร์ โดยแข็งค่าหลุดระดับ 34 บาท/ดอลลาร์ ไปช่วง หนึ่ง โดยวันนี้มี flow จากต่างชาติเข้ามาซื้อพันธบัตรประมาณ 4,600 ล้านบาท ส่วนภาพรวมตลาดวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา คืนนี้ ตลาดรอ ดูการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนพ.ย.

"วันนี้ตลาดค่อนข้างเงียบเหงา คงเพราะเป็นช่วงวันหยุดฟันหลอ คืนนี้ ตลาดรอดูตัวเลข Non-farm Payrolls ของ สหรัฐ" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.90-34.20 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 150.54 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันพุธ ที่ระดับ 150.13 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0581 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันพุธ ที่ระดับ 1.0574 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,451.96 จุด เพิ่มขึ้น 1.14 จุด (+0.08%) มูลค่าซื้อขาย 43,733.92 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติยสุทธิ 1,624.52 ล้านบาท
  • นายกรัฐมนตรี ยืนยันภายหลังหารือกับ รมว.คลัง และทีมที่ปรึกษานโยบาย ว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
จาก 7% เป็น 15% และย้ำว่านโยบายหลักของรัฐบาลคือการลดรายจ่ายของประชาชน การทำงานของรัฐบาลจะรับฟังทุกภาคส่วน และยึด
ประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง
  • ประธานกรรการหอการค้าไทย ชี้สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ยังไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะปรับขึ้นภาษี VAT เพราะ
จะมีผลกระทบต่อทั้งประชาชน และภาคธุรกิจเอกชน พร้อมมองว่าหากรัฐบาลสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้ถึง 5% การปรับขึ้น
VAT ก็สามารถรับได้
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หากรากของปัญหายังไม่ถูกแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ปี 2568 จะเป็นอีกปีที่ไทยต้องเผชิญกับ
ปัญหาสินเชื่อใหม่ที่เติบโตต่ำ ท่ามกลางตลาดผู้กู้ที่มีศักยภาพในการชำระหนี้ที่จำกัดลง และหนี้ด้อยคุณภาพที่ยังจะมีทิศทางเพิ่มขึ้น
  • "โกลด์แมน แซคส์" และ "มอร์แกน สแตนลีย์" คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีน (PBOC) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ลง 0.40% ในปี 68 ซึ่งจะเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ นับตั้งแต่ปี 58 และจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร
ระยะ 7 วัน ลดลงเหลือ 1.1%
  • ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 6.50% ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันในการ
ประชุม 11 ครั้ง และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดย RBI กำลังเผชิญกับความยากลำบากในควบคุมเงินเฟ้อ ไม่ให้ส่งผลกระทบการ
เติบโตทางเศรษฐกิจ
  • รมว.ต่างประเทศของญี่ปุ่น เผยว่า ญี่ปุ่นมีความตั้งใจที่จะเริ่มการเจรจาการค้ากับ "โดนัลด์ ทรัมป์" ว่าที่ประธานาธิบดี
สหรัฐฯ โดยคาดว่าการทำข้อตกลงบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการยกเลิกภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์นั้น จะเป็นหนึ่งในวาระการเจรจา
  • คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย., ดัชนีความเชื่อ

มั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ