ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (9-13 ธ.ค.) ที่ 33.60-34.30 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 6 ธ.ค. ที่ 34.07 บาท/ดอลลาร์ โดยในช่วงต้นสัปดาห์เงินบาทอ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลกและการอ่อนค่าของสกุลเงินเอเชียในภาพรวมท่ามกลางความกังวลต่อสัญญาณเตรียมเดินหน้ามาตรการกีดกันทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยแข็งค่ากลับมาในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยแข็งค่าหลุดแนว 34.00 ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือนที่ 33.95 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่เงินดอลลาร์กลับมาเผชิญแรงขาย หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลายตัวออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด อาทิ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย. ที่เพิ่มน้อยกว่าคาด จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มมากกว่าคาด และดัชนี ISM ภาคบริการเดือนพ.ย. ที่ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทั้งนี้ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง แม้ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งกว่าที่เฟดประเมินไว้ในเดือนก.ย. ซึ่งน่าจะทำให้เฟดสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะถัดไปได้ก็ตาม
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 2-6 ธ.ค. 67 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,357 ล้านบาท แต่มีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 6,986 ล้านบาท (แบ่งเป็น ซื้อสุทธิพันธบัตร 7,490 ล้านบาท หักด้วยตราสารหนี้หมดอายุ 503 ล้านบาท)
ส่วนปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้าที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สกุลเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก รวมถึงสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย. และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3/2567 ของญี่ปุ่น และตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือนพ.ย. อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ตัวเลขการส่งออก และยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเช่นกัน