นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าวถึงผลผลิตกุ้งโดยรวมปี 2567 อยู่ที่ 270,000 ตัน ลดลงเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาโรคระบาด สภาพอากาศแปรปรวน กระทบคุณภาพลูกกุ้ง ราคากุ้งตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรบางส่วนชะลอการลงกุ้ง
ความเสียหายที่อุตสาหกรรมเผชิญมาตลอด 10 กว่าปี จากปัญหาโรคระบาดกุ้ง โดยเฉพาะโรคหัวเหลือง, โรคตัวแดงดวงขาว, EHP, EMS และโรคขี้ขาว ตั้งแต่ปี 54 ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรพยายามทุ่มเททุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง และความช่วยเหลือจากกรมประมง แต่ยังไม่สามารถก้าวผ่านปัญหาโรคระบาดได้
"กุ้งปีนี้ลดลงจากปีก่อน เป็นผลผลิตกุ้งจากภาคใต้ตอนบน 37% ภาคใต้ตอนล่างฝั่งอันดามัน 23% จากภาคตะวันออก 20% จากภาคกลาง 10% ภาคใต้ตอนล่างฝั่งอ่าวไทย 10% ส่วนผลผลิตกุ้งทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.04 ล้านตัน ลดลง 4% โดยผลผลิตจากประเทศผู้ผลิตหลักทั้งจีน เอกวาดอร์ อินเดีย เวียดนาม ลดลงทุกประเทศ" นายเอกพจน์ กล่าว
พร้อมเสนอของบ 2,000 ล้านบาท แก้ปัญหากุ้งทั้งระบบ เน้นแก้ปัญหาโรคกุ้งอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้ภายใน 3 ปี หยุดความเสียหายกว่า 600,000 ล้านบาท เพิ่มผลผลิตกุ้งคุณภาพ 400,000 ตัน ทวงคืนมูลค่าการส่งออก 50,000 ล้านบาท กลับเข้าประเทศ
"ความเสียหายที่อุตสาหกรรมเผชิญมาตลอดสิบกว่าปี จากปัญหาโรคระบาด EMS หรือโรคตายด่วน ตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรพยายายามทุ่มเททุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง และความช่วยเหลือจากกรมประมง แต่ยังไม่สามารถก้าวผ่านปัญหาโรคระบาดได้ ...สิ่งที่เกษตรกรเรียกร้อง และรัฐบาลต้องช่วยเหลือเพราะวันนี้เกินกำลังของพวกเราแล้วคือ การแก้ปัญหา เรื่องโรคให้ได้ โดยรัฐต้องมีมาตรการในการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม เพื่อแก้ปัญหาโรคให้ได้ภายใน 3 ปี ซึ่งหากรัฐบาลทำเรื่องนี้สำเร็จเกษตรกรจะสามารถบรรลุเป้าหมายผลผลิต 400,000 ตัน ซึ่งเป็นผลผลิตคุณภาพสูง เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค และเป็นอุตสาหกรรมการเกษตรหลักสำคัญที่ทำรายได้กลับคืนมาให้กับประเทศได้อีกครั้งอย่างแน่นอน" นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าว
ส่วนการส่งออกกุ้งเดือน ม.ค.-ต.ค. ปีนี้อยู่ที่ปริมาณ 109,048 ตัน มูลค่า 33,954 ล้านบาท ปริมาณลดลง 1% ส่วนมูลค่าลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 66 ที่ส่งออกปริมาณ 109,663 ตัน มูลค่า 36,284 ล้านบาท
นายเอกพจน์ กล่าวว่า เป้าหมาย 400,000 ตัน ภายใน 3 ปี โดยต้องการให้กุ้งไทยเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ซึ่งต้องแก้ปัญหาอันดับแรกโดยเฉพาะเรื่องโรคกุ้ง ต่อมาค่อยปรับโครงสร้างตลาดกุ้งไทย สร้างมาตรฐานตามความต้องการผู้ซื้อ และลดต้นทุนการผลิต
นายเอกพจน์ กล่าวว่า หากไทยจะแข่งขันได้ต้องเน้นผลิตกุ้งพรีเมียม ซึ่งราคาสูงกว่าตลาด 1 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งปัญหาหลักคือเรื่องโรค ซึ่งถ้าไทยแก้ได้คือไปต่อได้ ส่วนปัจจัยภายนอกอื่น ๆ อย่างนโยบายทรัมป์ ราคาพลังงาน อัตราแลกเปลี่ยน หรือภูมิรัฐศาสตร์ เป็นเรื่องที่ไม่กังวลเพราะทั่วโลกก็ต้องเจอเหมือนกันหมด
สำหรับปี 68 หากไทยสามารถก้าวข้ามโรคกุ้งไปได้ เชื่อว่าปีหน้าผลผลิตน่าจะแตะ 300,000 ตันได้ เพราะกุ้งพรีเมียมของไทยเป็นที่ต้องการในตลาดมาก อย่างไรก็ดี มีความกังวลเรื่องโรคกุ้งอุบัติใหม่ คือ TPD หรือโรคตัวใสในกุ้ง ที่เริ่มระบาดมาประเทศจีน และเวียดนามแล้ว ซึ่งถ้าโรคนี้เข้าไทยก็อาจทำให้จำนวนผลผลิตไทยหายไปได้อีกถึง 100,000 ตัน
"ขอฝากถึงนายกรัฐมนตรี วันนี้สิ่งที่จะแก้ปัญหาได้คือขอให้ประกาศให้เรื่องกุ้งเป็นวาระแห่งชาติ ให้ทุกกระทรวง ทุกฝ่ายมาคุยกัน พัฒนาวิจัยแก้ไขเรื่องกุ้งอย่างจริงจัง" นายเอกพจน์ กล่าว