น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายการบริหารราชการภายใต้หัวข้อ "2568 Empowering Thais: A Real Possibility จากผลงานที่เป็นรูปธรรม สู่อนาคตที่ทำได้จริง" ในกำหนดทิศทางของประเทศไทยในปี 2568 เพื่อให้สามารถแข่งขันกับทุกประเทศในโลกได้
สำหรับนโยบายที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า 5 นโยบาย คือ โครงการ SML, หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน, ดิจิทัลวอลเล็ต, การแก้หนี้ครัวเรือน และบ้านเพื่อคนไทย ได้แก่
- การศึกษา ดึงเงินสำนักงานสลากกินแบ่งทำนโยบาย "1 อำเภอ 1 ทุนการศึกษา,1 อำเภอ 1 ซัมเมอร์แคมป์,สร้างโรงเรียนต้นแบบ
- โครงการ SML พัฒนาหมู่บ้าน กระจายอำนาจสู่ชุมชน เปิดโอกาสให้คนทุกตำบลหมู่บ้านในการคิดและลงมือแก้ไขปัญหาในพื้นที่ตามความต้องการที่แท้จริง พร้อมกับกองทุนเพื่อฟื้นฟู SME ซึ่งเป็นฐานรากของเศรษฐกิจไทยอีกกว่า 5,000 ล้านบาท โดยจะมีการเพิ่มวงเงินทุกปี
- บ้านเพื่อคนไทย ใช้ที่ รฟท.สร้างคอนโด "บ้านเพื่อคนไทย" ผ่อนยาว 30 ปี เดือนละ 4,000 บาท ได้สิทธิอาศัยอยู่ 99 ปี จะเห็นห้องตัวอย่างในปี 68
- รถไฟฟ้า 20 บาท จะขยายเส้นทางเพิ่มเติมเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการใช้บริการได้
- Digital Wallet มั่นใจ GDP ใน Q4/67 โตทะลุ 3% หลังจากแจกเฟสแรก ยันเดินหน้าแจกเงินหมื่นเฟส 2 ก่อนตรุษจีน และเฟส 3 สำหรับบุคคลทั่วไปเป็นการแจกผ่านดิจิทัลวอลเล็ตในปีหน้า
- แก้หนี้ครัวเรือน จะเริ่มดำเนินการในต้นปี 2568 พร้อมมาตรการประนอมหนี้แบบพิเศษที่จะล้างหนี้ให้ทั้งหมดสำหรับลูกหนี้มูลหนี้ต่ำกว่า 5,000 บาท
- ลดอำนาจรัฐ อำนวยความสะดวกประชาชน
- การจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้ง
จะต้องดูแลให้มีปริมาณเพียงพอสำหรับการอุปโภค บริโภค เกษตร และอุตสาหกรรม ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการทั้งระยะสั้น-กลาง-ระยะยาว รวมทั้งการศึกษาแนวทางที่จะอนุญาตให้ประชาชนสามารถขุดลอกคูคลองแล้วนำดินไปใช้หรือขายได้ การศึกษาโครงการฟลัดเวย์ และโครงสร้างขนาดใหญ่ที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้อย่างยั่งยืนด้วย
- การแก้ปัญหาหมอกควัน PM 2.5
จากการที่ได้ประกาศ KPI ว่า PM2.5 จะต้องลดน้อยลง ทั้งในแง่ปริมาณฝุ่นและตัวเลขประชาชนที่ป่วยจากฝุ่นต้องลดลงทุกปี โดยปัจจุบันรัฐบาลควบคุมการเผาในประเทศให้ลดลง 50% การเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านให้ลดการเผา การไม่สนับสนุนสินค้าเกษตรที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาไหม้ และการออกกฎหมาย พ.ร.บ.อากาศสะอาด
- ปัญหายาเสพติด
จะต้องมีมาตรการที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะปัญหายาเสพติดจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ โดยรัฐบาลจะสร้างแพลตฟอร์มที่ให้ประชาชนสามารถเข้ามาแจ้งเบาะแสยาเสพติดส่งตรงถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นความลับเพื่อความปลอดภัย ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาจะนำรูปแบบของท่าวังผาโมเดล และร้อยเอ็ดโมเดลมาปรับใช้กับพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ
- การทลายทุนผูกขาด
รัฐบาลจะเร่งดำเนินการปลดล็อคการผูกขาด เช่น เรื่องการส่งออกข้าว โดยตั้งเป้าให้เกษตรกรทุกคนสามารถส่งออกข้าวไปทั่วโลกได้เอง หรือปลดล็อกการผูกขาดราคาพลังงานด้วยเงื่อนไขทางกฎหมาย เพื่อปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า ค่าพลังงานให้ถูกลงให้ได้
- การแก้ปัญหาธุรกิจนอกระบบ
รัฐบาลจะนำธุรกิจใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดินและกำกับให้ถูกกฎหมาย เช่น ส่งเสริมการผลิตสุราชุมชน คาดว่าธุรกิจใต้ดินมีมูลค่ากว่า 49% ของ GDP การแก้ปัญหานี้จะช่วยสร้างอาชีพ ทำให้รัฐบาลปกป้องประชาชนได้ และยังเป็นรายได้ของรัฐบาลด้วย
- นโยบายการลงทุนครั้งใหญ่ในอนาคต
รัฐบาลตั้งเป้าจะเป็น AI Hub ของภูมิภาค เนื่องจากในปัจจุบันมีบริษัทใหญ่มาลงทุนทำศูนย์ข้อมูล (Data center) เป็นเงินลงทุนมากกว่าล้านล้านบาทแล้ว
"หลังจากนี้จะเป็นปีแห่งการสร้าง People Empowerment เพิ่มอำนาจประชาชน ลดอำนาจเรา หรือการลดและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ วางรากฐานที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในทศวรรษหน้า เพื่อดึงศักยภาพของคนไทยให้กลับมา" น.ส.แพทองธาร กล่าว