ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.82 ระหว่างวันผันผวน ก่อนกลับมาทรงตัวจากช่วงเช้า

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 12, 2024 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.82 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับ เดียวกับช่วงเปิดตลาดเมื่อเช้า ขณะที่ทิศทางค่าเงินในภูมิภาคปรับตัวอ่อนค่า ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.75 - 33.93 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตร 5.4 พันล้านบาท

"ทิศทางบาทผันผวนตามราคาทอง หลังเปิดตลาดอ่อนค่าไปแตะ 33.93 หลัง 9 โมงเช้าก็ทยอยปรับตัวแข็งค่าลงมาจนปิด ตลาดในระดับเดียวกับเปิดตลาดเมื่อเช้า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.70 - 34.00 บาท/ดอลลาร์

โดยคินนี้ตลาดรอดูผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งคาดว่าจะมีมติปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% นอกจากนี้ยังมีการ ประกาศตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ และตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 152.47 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 152.24 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0514 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0503 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,439.89 จุด ลดลง 3.16 จุด, -0.22% มูลค่าซื้อขาย 41,482.93 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,531.89 ล้านบาท
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (CCI) เดือน พ.ย.67
อยู่ที่ 56.9 ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 56.0 ในเดือน ต.ค.67 ดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในรอบ 9 เดือน หลังเริ่มเห็นว่ามาตรการกระตุ้น
เศรษฐกิจของรัฐบาลที่ช่วยให้สถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น และการท่องเที่ยวในประเทศหลังเกิดเหตุน้ำท่วมเริ่มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจฯ ประเมินการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลโดยยึดนโยบายจากการหาเสียง ได้แก่
นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต หวยเกษียณ แก้ไขหนี้ครัวเรือน และค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศนั้นได้เกรด A ในเรื่องความตั้งใจ ขณะที่ผล
งานในช่วง 3 เดือนได้เกรด C+
  • ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดไตรภาคี) ในวันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากมีข้อมูลตัว
เลขอัตราค่าจ้างเป็นจำนวนมาก เพราะเสนอเข้ามาทั้ง 77 จังหวัด โดยได้นัดประชุมกันอีกครั้งในช่วงบ่ายวันที่ 23 ธ.ค.67
  • คณะบริหารของรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ (แผงโซลาร์เซลล์) และโพลี
ซิลิคอนจากจีน เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสะอาดให้สามารถแข่งขันกับสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ ก่อนที่ปธน.ไบเดนจะหมด
วาระการดำรงตำแหน่งในเดือนหน้า
  • มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม (ITIF) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรในสหรัฐฯ ได้เผยดัชนีใหม่ในชื่อ
Trump Risk Index ซึ่งจัดอันดับประเทศพันธมิตรสหรัฐฯ 39 ประเทศตามระดับความเสี่ยงที่ประเทศเหล่านี้อาจได้รับผลกระทบ
จากนโยบายภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ พบว่า เม็กซิโกเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุด (-4.12
คะแนน) ส่วนไทยก็ตามมาติด ๆ ในอันดับสอง (-3.98 คะแนน) และเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่ติด 10 อันดับแรก ส่วนอันดับ 3-5 ตก
เป็นของสโลวีเนีย (-2.48) ออสเตรีย (-2.42) และแคนาดา (-1.98) โดยคะแนนที่ติดลบแสดงถึงความเสี่ยงในระดับสูง
  • กระทรวงการคลังของจีนออกพันธบัตรรัฐบาลสกุลเงินหยวนวงเงินรวม 6 พันล้านหยวน (ราว 835.2 ล้านดอลลาร์

สหรัฐ) ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) เมื่อวานนี้ ซึ่งนักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีวงเงินเสนอซื้อสูงกว่าปริมาณเสนอ

ขายอยู่ถึง 3.58 เท่า

  • นักลงทุนในตลาดการเงินต่างจับตาการประชุมคณะทำงานว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจของจีน หรือ Central Economic
Work Conference เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ