นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.12/13 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเมื่อ เช้าอยู่ที่ระดับ 33.93/95 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.82 - 34.14 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวไปในทิศทางอ่อนค่า ยังคงรับปัจจัยจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศเมื่อคืนนี้ ทั้ง ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลาง ญี่ปุ่น (BOJ) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.25% ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า ประกอบกับ ราคาทองทั่วโลกยังคงปรับลงต่อเนื่อง
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 33.80 - 34.25 บาท/ดอลลาร์
สำหรับสัปดาห์หน้า ตลาดรอติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 17-18 ธ.ค. 67 ซึ่ง 96.7% คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% นอกจากนี้ สัปดาห์หน้ายังมีการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) จากสหรัฐฯ ด้วย
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 153.39/42 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 152.76/79 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0474/0475 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0465/0468 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,431.67 จุด ลดลง 8.22 จุด (-0.57%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 40,324.88 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 492.63 ลบ. (SET+MAI)
- รมว.แรงงาน มั่นใจที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดไตรภาคี) ในวันที่ 23 ธ.ค. จะมีข้อสรุปเรื่องการปรับขึ้นค่า
- นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่สำนักข่าวรอยเตอร์สำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะคงอัตรา
- นักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของจีน คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ โดยคาดว่า
- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนอีกครั้ง และยังคงคาดการณ์ว่าอัตราเงิน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานในวันนี้ (13 ธ.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของ
อังกฤษ ลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. หลังจากหดตัวในอัตราเดียวกันในเดือนก.ย. และยังต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะขยายตัว
0.1%