กรมสรรพสามิต ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 (บช.สอท.) จับกุมรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ขนาด 50cc และรถจักรยานยนต์วิบาก ขนาด 50cc นำเข้าจากต่างประเทศที่ไม่ได้จดทะเบียนและไม่ได้ชำระภาษีสรรพสามิต จำนวน 850 คัน คิดเป็นค่าภาษีสรรพสามิต 718,680 บาท คิดเป็นเงินค่าปรับ 3,593,400 บาท
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิต ได้รับแจ้งเบาะแสการลักลอบจำหน่ายรถจักรยานยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด มีลักษณะการขายแบบเก็บเงินปลายทาง จึงได้เข้าตรวจสอบที่โกดังแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก โดยได้บูรณาการร่วมกับตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพื่อเข้าจับกุม
จากการตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์จิ๋ว ขนาด 50cc จำนวน 260 คัน รถจักรยานยนต์วิบาก ขนาด 50cc จำนวน 590 คัน ที่ยังไม่ได้ชำระภาษีสรรพสามิตคิดเป็นภาษีสรรพสามิตเป็นเงิน 718,680 บาท พบผู้แสดงตนเป็นเจ้าของให้การว่า ได้นำสินค้าดังกล่าวเข้ามาจากประเทศจีน และยังไม่ได้ชำระภาษีสรรพสามิตแต่อย่างใด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 204 มีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี จึงได้นำตัวไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก และทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 3,593,400 บาท
การจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายในครั้งนี้ กรมสรรพสามิตได้บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จนสามารถจับกุมรถจักรยานยนต์ที่มิชอบด้วยกฎหมายได้สำเร็จ ซึ่งปัจจุบันกรมสรรพสามิตได้ยกระดับการทำงาน ด้วยการ บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งยกระดับการทำงานเชิงรุก ด้วยการเปิดศูนย์ปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายออนไลน์ และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงานเพื่อปราบปรามและจับกุมขบวนการผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560