นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 15 ธ.ค. 67 รวมทั้งสิ้น 33,491,851 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,573,080 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 6,449,397 คน มาเลเซีย 4,680,336 คน อินเดีย 2,009,043 คน เกาหลีใต้ 1,767,500 คน และรัสเซีย 1,603,095 คน
สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (9-15 ธ.ค.) นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากในทุกกลุ่มตลาด โดยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 10.50% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (High season) ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามา 279,507 คน หรือเพิ่มขึ้น 12.67% จากสัปดาห์ก่อนหน้า จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดหลัก อาทิ สหราชอาณาจักร รัสเซีย สวีเดน และเยอรมนี
อีกทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 9.31% จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวตลาดหลัก อาทิ นักท่องเที่ยวชาวจีน มาเลเซีย และเกาหลีใต้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ที่เดินทางเข้ามาสะสมแล้วกว่า 2 ล้านคน
ทั้งนี้ ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 772,553 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 73,424 คน หรือ 10.50% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย เฉลี่ยวันละ 110,365 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน 123,703 คน มาเลเซีย 94,052 คน รัสเซีย 51,890 คน อินเดีย 47,797 คน และเกาหลีใต้ 44,077 คน
สำหรับในสัปดาห์นี้ (16-22 ธ.ค.) คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น จากปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ การเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคยุโรป การมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีผลต่อจำนวนที่นั่งเข้าไทย (Seat Capacity) ระหว่างเดือนก.ค. มาจนถึงเดือนสิ้นปี เพิ่มขึ้น 10% การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาล ที่ช่วยเพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตร ตม.6 ในด่านทางบก รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น
อนึ่ง ในปี 2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไว้ที่ 36 ล้านคน