นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า การส่งออกของไทยในปี 67 มีโอกาสจะเติบโตได้ถึง 5% มูลค่าทะลุ 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาทประมาณ 10 ล้านล้านบาท ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ข้อมูลภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยอย่างเป็นทางการ ล่าสุดในเดือนต.ค.67 มีมูลค่าการส่งออก 27,222 ล้านดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 19 เดือน ขยายตัวถึง 14.6% จากเดือนเดียวกันปีก่อน ทำให้ช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.) การส่งออกของไทย มีมูลค่ารวม 2.57 แสนล้านดอลลาร์ ขยายตัว 6.6%
นายพิชัย กล่าวว่า สำหรับปีหน้าได้กำหนด 10 นโยบายในการผลักดันการส่งออกไทย ประกอบด้วย
1. ผลักดันการส่งออกให้เติบโตได้ 2-3% และหวังว่าจะทำได้มากกว่านี้ เพราะเชื่อว่าตอนนี้มีหลายอุตสาหกรรมที่แห่เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น
2. ไวต่อสถานการณ์การค้าและการลงทุน โดยเฉพาะความกังวลประเด็นสหรัฐฯจะขึ้นภาษีนำเข้า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งเจรจาโดยในเดือน ก.พ.68 จะมีโอกาสพบกับผู้บริหารชุดใหม่ของรัฐบาลสหรัฐเพื่ออธิบายว่าไม่ควรขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ามจากประเทศไทยเพราะไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าหลายชนิดให้กับสหรัฐ
3. เศรษฐกิจไทยกลับมาเป็นบวกต่อเนื่อง เชื่อว่าทุกวิกฤติเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทย และในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปที่ญี่ปุ่นเพื่อพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (METI) และพบกับภาคเอกชนเพื่อเชิญชวนให้เข้ามาลงทุนในไทย
4. ไทยพร้อมทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับทุกประเทศ เพื่อเร่งขยายการค้าทำเงินเข้าประเทศ
5. พร้อมเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมใหม่ เศรษฐกิจไทยต้องโตอย่างต่ำ 5% ไปอีกปี 20 ปี ถึงจะหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ดังนั้น ต้องพร้อมเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมสมัยใหม่ทั้งเซมิคอนดักเตอร์และดาต้าเซ็นเตอร์
6. รีแบรนด์ Thai SELECT ให้เข้าใจง่ายคล้ายมิชลินสตาร์ และโปรโมทส่งออกสินค้าระดับ Think Thailand NEXT LEVEL ไม่ขายวัตถุดิบอย่างเดียว แต่จะขายสินค้าสำเร็จรูปที่มีมูลค่าสูงให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
7. สร้าง Thailand Brand การันตีสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อและร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สนับสนุนผู้ประกอบการ SME
8. ดึงดูดคนทั่วโลกด้วยซอฟต์พาวเวอร์ด้วยเสน่ห์ของความเป็นไทย ทำให้มีจุดขาย
9. ทูตพาณิชย์ต้องมองโอกาสใหม่ ๆ ร่วมมือกับพาณิชย์จังหวัด ช่วยส่งเสริมธุรกิจของไทยผู้ประกอบการไทย
10. กระทรวงพาณิชย์ ยุค 80:20 โดย 80% สนับสนุนภาคเอกชนส่งเสริมให้การค้าขายของเราให้เจริญรุ่งเรืองและอีก 20% ทำหน้าที่ควบคุมกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อให้การเกิดค้าขายที่เป็นธรรม มีมาตรฐาน
"ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงพาณิชย์ กับภาคเอกชน มีความร่วมมือที่ดีกันมาโดยตลอด ทางเอกชนเสนอว่าควรมีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง เช่น ทุก 3 เดือน หรือถ้าฉุกเฉินก็สามารถคุยกันได้ทันที เพื่อเร่งส่งเสริมเศรษฐกิจไทยเติบโต เพราะเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนด้วยเอกชน กระทรวงพาณิชย์ มีหน้าที่ส่งเสริมให้เอกชนทำให้การค้าการขายคล่องขึ้นส่งของได้มากขึ้น" รมว.พาณิชย์ กล่าว
ด้านตัวแทนภาคเอกชน นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าฯ ขอชื่นชมท่านนายกรัฐมนตรี และกระทรวงพาณิชย์ ในการขับเคลื่อนอย่างเข้มข้น ทำให้ปีนี้การส่งออกไทยโตขึ้นถึง 5% มากกว่าที่คาดไว้ และในปีหน้าคาดว่าเราจะเติบโตต่อได้อีก ซึ่งอุปสรรคทั้งหลายที่เกิดขึ้นในวันนี้เชื่อว่าจะมีโอกาสให้กับไทยในหลายเรื่อง ทางกระทรวงพาณิชย์ทำงานร่วมกับภาคเอกชนให้ขับเคลื่อนการส่งออกของเศรษฐกิจไทย ถ้าไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรมากน่าจะไม่มีปัญหา
นายอรุณ เอี่ยมสุรีย์ กรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้ได้หารือกันกับกระทรวงพาณิชย์เกือบทุกเรื่อง มีการวางแผนป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งตัวเลขการส่งออกสูงเป็นประวัติการณ์ และแผนงานด้าน FTA มีความคืบหน้าและมีเป้าหมายที่จะขยายเพิ่มเติม เป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับประเทศ
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกในปีนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประเทศสูงที่สุดในประวัติการณ์มากกว่า 10 ล้านล้านบาท มาจากการทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อระหว่างภาครัฐกับเอกชน และรัฐมนตรีมีนโยบายที่ชัดเจนในการทำงานร่วมกับเอกชนทั้งการผลักดัน FTA และการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าอย่างจริงจังและรวดเร็ว โดยในปีหน้าเราต้องทันเหตุการณ์และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เร่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรไทย