ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.22/27 เคลื่อนไหวตามภูมิภาค จับตาประธานเฟดแถลงมติดอกเบี้ยนโยบายคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 18, 2024 17:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.22/27 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเปิดตลาด เมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 34.18 บาท/ดอลลาร์

โดยระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.15 - 34.30 บาท/ดอลลาร์ ยังไร้ปัจจัยใหม่ เคลื่อนไหวไปในทิศทาง เดียวกับค่าเงินในภูมิภาค ส่วนผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ออกมาว่า คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.25% ก็เป็นไปตามที่ ตลาดคาด จึงไม่ได้ส่งผลต่อเงินบาท

ทั้งนี้ ตลาดรอติดตามผลการประชุมดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คืนนี้เป็นหลัก โดยตลาด 95% คาดว่า จะลดดอกเบี้ย 0.25% ประกอบกับยังรอดูถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งคาดว่าในช่วงที่ประธานเฟดพูดถึงเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาจทำให้ ค่าเงินมีการผันผวนได้เล็กน้อย

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.10 - 34.40 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 153.60/80 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 153.76 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0480/0500 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0499 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,398.95 จุด เพิ่มขึ้น 3.38 จุด (+0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 47,817.65 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 366.69 ลบ.(SET+MAI)
  • ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% ต่อปี ทั้งนี้
ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโต อย่างยั่งยืน และรักษา
เสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าปรับสูงขึ้น จึงจะติดตามพัฒนาการของแนวโน้มเศรษฐกิจ
การเงินและพิจารณานโยบายการเงินให้เหมาะสมต่อไป
  • กนง. ประเมินว่า ในปี 67 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวที่ 2.7% ส่วนในปี 68 คาดขยายตัว 2.9% ซึ่งเท่ากับ
ประมาณการเดิมเมื่อเดือนต.ค. 67 โดยได้รับแรงสนับสนุนต่อเนื่องจากการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน รวมทั้งการส่งออก
สินค้า ขณะที่ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของปี 67 ลงเหลือ 0.4% จากเดิมคาด 0.5% ส่วนปี 68 คาดไว้ที่ 1.1% จากเดิม
1.2% ซึ่งแม้เงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ยังไม่เห็นสัญญาณภาวะเงินฝืด
  • กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ยังคงคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะตัดสินใจปรับลด
อัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป หากสถานการณ์โดยรวมไม่ดีขึ้นจากปัจจุบัน สำหรับการประชุม กนง.ครั้งต่อไป จะมีขึ้นในวันที่ 26
ก.พ.68
  • รมว.พาณิชย์ ระบุว่า การส่งออกของไทยในปี 67 มีโอกาสจะเติบโตได้ถึง5% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3 แสนล้านดอลลาร์
สหรัฐ ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ในปี 68 คาดว่าการส่งออกจะเติบโตได้ราว 2-3%
  • ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย. 67 อยู่ที่ระดับ 91.4 เพิ่มขึ้นจากระดับ 89.1 ในเดือนต.ค. โดยเป็น
การเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน ซึ่งเป็นผลจากที่ผู้ประกอบการเร่งผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อในประเทศ และต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น เพื่อ
จำหน่ายในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี และก่อนวันหยุดต่อเนื่องในเดือนธ.ค.67 ประกอบกับภาคการส่งออกขยายตัวดี และการอ่อนค่าของเงิน
บาท ส่งผลดีต่อภาคการส่งออก
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในปี 68 คาดขยายตัวที่ระดับ 3% ยังไม่รวมผลกระทบที่
อาจเกิดขึ้นจากนโยบายขึ้นภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 67 จะขยายตัว 2.8%
  • ธนาคารกลางอินโดนีเซีย คงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะเวลา 7 วันไว้ที่ 6% ซึ่งการคงดอกเบี้ยครั้งนี้ สอดคล้องกับ
แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินที่มุ่งคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย 1.5-3.5% ทั้งในปี 2567 และ 2568 พร้อมกันนี้ก็เพื่อ
หนุน "การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน"

-ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า BOK จะคงเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่ระดับ 2% ต่อไปจนกว่าจะมีการ ทบทวนนโยบายครั้งถัดไป เนื่องจากยุคของ "เงินเฟ้อต่ำ" ไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นใน 1 หรือ 2 ปีข้างหน้า

  • ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่สอง ขณะที่เทรดเดอร์คาดการณ์ว่า ราคาบิตคอยน์มี
โอกาสพุ่งแตะ All-Time High ที่ระดับ 110,000 ดอลลาร์
  • ตลาดรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) และแถลงมติอัตรา
ดอกเบี้ย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ